ห้องข่าวภาคเที่ยง - สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ฝั่งอีสานใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะกัมพูชามีการเคลื่อนอาวุธหนักประชิดแนวชายแดน ส่งสัญญาณพร้อมปฏิบัติการทุกเมื่อ ติดตามรายงานสดกับเกียรติชัย บุญราโส
กัมพูชายังคงส่งสัญญาณในการยั่วยุตลอดเวลา ทั้งในด้านของการลาดตระเวน และการนำอาวุธหนักหันไปกระบอกปืนเข้ามามายังฐานปฏิบัติการของไทย ซึ่งทหารไทยต้องวางแผนอย่างรัดกุม ในการปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้สูญเสียกำลังพล
จากกรณีที่มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาทำกระเช้าทางขึ้นเนิน 350 ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทตาควาย ซึ่งมีข้อมูลว่ากระเช้ามีไว้ขนทั้งคน ทั้งของ ร่นระยะทางจากตีนเขาชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 2 (ฐานทหารเขมร 260) ได้มากกว่า 14 กิโลเมตร
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับอดีตทหารพราน ค่ายทหารพราน 26 เคยสู้รบในปี 2554 อยู่ประจำจุดช่อง 241 ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับ ปราสาทตาควาย และเนิน 350 ยืนยันว่ากระเช้าดังกล่าวมีมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554 ซึ่งใช้ในการขนกำลังพลและอาวุธประจำกายขึ้นมาบริเวณฐานของกัมพูชาเท่านั้น แต่ปัจจุบันน่าจะมีการสร้างกระเช้าเพิ่มเติม รวมถึงเสริมประสิทธิภาพของกระเช้าให้สามารถขนอาวุธหนักขึ้นไปยังบริเวณเนิน 350 ได้แล้ว แต่เชื่อว่าทางการข่าวทหารไทยก็ทราบในกรณีนี้ดี ยอมรับว่าปัจจุบันการที่จะเข้าตียึดเนิน 350 ซึ่งเป็นชัยภูมิสำคัญ ดำเนินการได้อย่างลำบาก ทหารต้องวางแผนอย่างรัดกุม เพื่อรักษาชีวิตกำลังพล
ขณะที่ ความเคลื่อนไหวบริเวณชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ มีรายงานว่าบริเวณภูผี ทหารกัมพูชาได้เคลื่อนรถถังประมาณสามคันมาประชิดแนวชายแดน พร้อมทั้งหันไปกระบอกปืนมายังฐานปฏิบัติการของไทย
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้รับรายงานอีกว่าบริเวณด้านล่างของผามออีแดง ก็มีรถถังของกัมพูชาซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ หันปลายกระบอกปืนมายังฐานปฏิบัติการของไทยเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงท่าทีของการยั่วยุของกัมพูชา และการเตรียมความพร้อมสำหรับการประทะที่อาจจะเกิดขึ้น