หญิงพนักงาน ถูกคนร้ายขโมย "รถจักรยาน" ซึ่งเป็นยานพาหนะเดียวที่ใช้ไปทำงานทุกวัน หลังถูกขโมยเดินไปทำงานทุกวัน และไปสายบ่อย ล่าสุด ตกงาน ผู้ดูแลหอพัก เผย สงสารจับใจ วอนหัวขโมยเห็นแก่ความลำบาก เอาจักรยานมาคืน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวสุรินทร์ อายุ 57 ปี ผู้ดูแลหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอย 13 พระเนียนช้าง อำเภอบางละมุง หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกลักจักรยานของลูกบ้านกลางดึก ก่อนปั่นหลบหนีลอยนวล พร้อมเผยว่าผู้เสียหายถึงกับ ตกงาน–ชีวิตพลิก! เพราะไม่มีรถใช้เดินทางไปทำงาน
โดยภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์วันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 04.08 น. ชัดเจน พบคนร้ายเป็นชายไทยรูปร่างท้วม แต่งกายดีคล้ายชุดกีฬา สวมรองเท้าผ้าใบสีเขียว เดินวนดูลาดเลาหน้าหอพัก นานกว่า 10 นาที ก่อนอาศัยจังหวะไร้ผู้คน ยกจักรยานของลูกบ้านออกไปที่ถนน แล้วปั่นหนีไปอย่างใจเย็นราวกับเป็นของตัวเอง
นางสาวสุรินทร์ เผยว่า เหตุเกิดช่วงใกล้รุ่งเช้า คนร้ายแต่งตัวเหมือนคนออกกำลังกาย ทำให้ไม่มีใครเอะใจ คาดว่าอาจผ่านมาเห็นจักรยานจอดทิ้งไว้หลายวันจึงหมายตา ก่อนกลับมาก่อเหตุทันทีเมื่อสบโอกาส
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เสียหายเป็นหญิง ทำงานหาเช้ากินค่ำ รายได้ไม่มาก และมีภาระต้องเลี้ยงลูกเล็ก จักรยานคันนี้ คือ พาหนะเดียวที่ใช้ไปทำงานทุกวัน พอถูกขโมยก็ต้องเดินเท้าไปทำงาน แต่สุดท้ายก็ไปสายบ่อยจนกระทั่ง ถูกให้ออกจากงาน ในที่สุดรู้สึกสงสารมาก เขาไม่มีแม้แต่เงินนั่งวินจักรยานยนต์ จะไปสมัครงานใหม่ก็ลำบาก ต้องอุ้มลูกไปด้วยบางวัน เห็นแล้วมันเจ็บใจแทน ไม่คิดว่าขโมยจักรยานจะทำให้ชีวิตคนๆ หนึ่งพังได้ขนาดนี้
วอนคนร้ายหากเห็นข่าวนี้ ขอให้มีเมตตา เห็นแก่ความลำบากของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องดูแลลูกตามลำพัง หากนำจักรยานมาคืนได้ก็จะเป็นบุญอย่างยิ่ง พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ว่า ช่วงนี้คนร้ายในเมืองพัทยามีจำนวนมากขึ้น ควรล็อกสิ่งของให้แน่นหนา อย่าไว้ใจว่าปลอดภัยแม้ในที่พักของตัวเอง
ทั้งนี้ใครพบเห็นบุคคลตามภาพ เบาะแสใดๆ สามารถแจ้งทีมข่าวได้ทันทีเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายที่กำลังตกอยู่ในความลำบากสุดชีวิตในขณะนี้
