ห้องข่าวภาคเที่ยง - สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ยังวิกฤต ปริมาณน้ำลดลงอย่างช้า ๆ แต่ว่ายังท่วมสูง ที่สำคัญผ่านมาหลายวันน้ำที่ขังเริ่มส่งกลิ่น
อ.พรหมบุรี ยังวิกฤตน้ำสูงและมีลมหนาว
ทีมข่าวไปสำรวจรอบ ๆ พื้นที่ อำเภอพรหมบุรี พบชาวบ้านหลายคนยังคงหลับนอนอยู่ริมถนน ท่ามกลางมวลน้ำที่ล้อมรอบ และมีลมเย็น ๆ มาสัมผัสกายตอนเช้า
นางรังสิพร แซ่ลี้ อายุ 37 ปี เตรียมนำอาหารพายเรือกลับเข้าไปส่งให้กับพ่อที่พิการ และแม่ที่สูงอายุ ซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถอพยพออกมาได้ นอนรอเธอที่จำเป็นต้องอพยพออกมา เพื่อหุงหาอาหารในพื้นที่แห้ง
เธอยังบอกอีกว่า แม้ระดับน้ำใน อำเภอพรหมบุรี จะลดลงบ้าง แต่น้ำที่ขังอยู่นานกลับเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า เพราะไม่มีจุดระบายน้ำออกไปได้
ส่วนเรื่องเงินเยียวยาจำนวน 9,000 บาท เธอมองว่าอาจไม่เพียงพอกับทรัพย์สินที่ต้องเสียหาย ซึ่งที่บ้านของเธอมีเครื่องซักผ้าที่ต้องจมน้ำไป หากนำไปซ่อมเงินค่าเยียวยาก็แทบไม่เหลือแล้ว
ชาวบ้านอยากเข้าบ้านเพราะอากาศเย็นลง
ส่วนที่ ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนประชาชนยังคงถูกน้ำท่วมสูง หลายครอบครัวต้องอพยพออกมานอนบนถนน อาศัยกางเต็นท์นอน แต่ก็ต้องเจออุปสรรคจากลมหนาวที่พัดมาทุกค่ำคืน จนแทบอยู่ไม่ได้ บางคนเลือกเสี่ยงชีวิตพายเรือฝ่ากระแสแรง แบบไม่มีชูชีพเพื่อเข้าไปนอนในบ้าน ที่บังลมหนาวได้
จมบาดาลเพิ่มอีก 1 อำเภอ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างขึ้น กินพื้นที่ 12 อำเภอ ที่เพิ่มมาใหม่ คือ อำเภอนครหลวง ชาวบ้านคาดกันว่า อาจจะจมอยู่กับน้ำนานถึงต้นปีหน้า
ปัจจุบันมีชาวบ้านเดือดร้อน 63,781 ครัวเรือน อยู่ใน 144 ตำบล 931 หมู่บ้าน ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 คน อยู่ใน อำเภอเสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร และอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา