อภิสิทธิ์ยื่นหลักฐานเส้นทางการเงิน ให้ ปปง. ตรวจสอบ เชื่อมีนักการเมืองระดับรัฐมนตรี 2 คน เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ชัดเจน มั่นใจในหลักฐาน คาดหวังถึงขั้นอายัดทรัพย์
วันนี้ (20 พ.ย.68) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำหลักฐานเส้นทางการเงิน ประกอบด้วย เอกสารรายงานการเข้าซื้อกิจการ การวางโครงสร้างบริษัท วิธีการเพิ่มทุน ซึ่งมีการรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงบุคคลที่มีรายชื่อในแบล็กลิสต์เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ของสหรัฐอเมริกา มามอบให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากสหรัฐฯ และทั่วโลก เริ่มกระบวนการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์อย่างจริงจัง แต่ในส่วนของประเทศไทยขณะนี้ยังไม่เห็นการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าหากใครมีพยานหลักฐาน ที่จะนำไปใช้ตรวจสอบก็ให้นำมามอบให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันนี้ตัวเองจึงเดินทางมามอบข้อมูลทั้งหมดที่สามารถสืบค้นได้มาให้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนให้ความสนใจในประเด็นนี้ เนื่องจากมีข้อมูลว่า สหรัฐฯ อยู่ระหว่างร่างกฎหมายเพื่อปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ทั่วโลก เช่นเดียวกับจีนที่ได้เร่งปราบปราม หากร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วเสร็จ สหรัฐฯ จะมีอำนาจเต็มในการเข้ามาตรวจสอบข้อมูล ซึ่งหากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ตรวจสอบเจอเอง ก็อาจจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ ไทยจึงต้องเร่งดำเนินการก่อน อีกทั้งยังเพื่อป้องกันไม่ให้ทุนเทาเข้ามาครอบงำสถาบันการเงิน
“หลักฐานที่นำมาในวันนี้คือเส้นทางการเงิน ที่ได้เปรียบเทียบจากรายชื่อแบล็กลิสต์ของสหรัฐฯ กระทั่งพบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ พบปลายทางของเส้นทางการเงินมาที่บริษัทพลังงานและบุคคลสำคัญของไทย เบื้องต้นต้องการให้ ปปง. นำหลักฐานไปใช้เริ่มต้นกระบวนการ ซึ่งปรากฎพยานหลักฐาน เพื่อเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องสำหรับยับยั้งและยุติการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินเพื่อนำไปใช้กระทำความผิดต่ออีก”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายชื่อที่ตนมีข้อมูลอยู่ มีทั้งอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลที่แล้ว และรัฐมนตรี 2 คน ในชุดรัฐบาลปัจจุบัน ส่วนเส้นทางการเงินจะขยายไปเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ก็ให้เป็นหน้าที่ของการสืบสวนสอบสวน เพราะไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องดำเนินคดีกับบุคคลใดเป็นพิเศษ การจะเอาผิดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ก็คาดว่าผู้เกี่ยวข้องน่าจะมีมากกว่า 10 คน
หลักฐานต่าง ๆ ที่มอบให้ ปปง. ถือเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องที่รัฐมนตรีคนหนึ่ง จดทะเบียน 300 บาท แต่สามารถไปซื้อกิจการหลักพันล้านบาทได้ ในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี ซึ่งถือว่ามีความผิดปกติ ตนมั่นใจพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ ปปง. โดยคาดหวังว่าจะมีการอายัดทรัพย์ เหมือนกับกรณีของ สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว อีกด้วย”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากมอบหลักฐานให้ปปง.แล้วตัวเองจะเดินทางต่อไปที่ กลต. เพื่อให้ประสานการทำงานร่วมกันกับสถาบันการเงินและต่างประเทศ
ส่วนเรื่องที่มีภาพปรากฎว่า นายทักษิณ ชินวัตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และบุคคลต่างชาติ ที่คนทั่วโลกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ถ่ายรูปร่วมกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โลกนี้ว่าแค่รูปถ่ายร่วมกันไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ เพราะตนก็มีรูปคู่กับบุคคลสำคัญหลายคน