ยายวัย 83 ปี ถ้ามีปืนอยู่ในมือจะคว้าไปสู้รบด้วยตัวเอง

ยายวัย 83 ปี ถ้ามีปืนอยู่ในมือจะคว้าไปสู้รบด้วยตัวเอง

View icon 80
วันที่ 20 พ.ย. 2568 | 15.05 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยาย วัย 83 ปี ลั่นหากมีอาวุธในมือจะขอไปสู้รบเอง หลังลูกเขยพาอพยพเข้า กทม. บ่อยครั้ง เพราะสถานการณ์ชายแดนไม่น่าไว้วางใจ

20 พ.ย. 68 ทีมข่าว 7HD ลงพื้นที่ บ้านหนองคันนา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม ไม่ถึง 10 กิโลเมตร พบว่ามีบ้านหลังหนึ่งกำลังเก็บข้าวของขนใส่ท้ายรถแท็กซี่ เพื่ออพยพออกจากพื้นที่

โดยนายทวน สุขใส อายุ 56 ปี เจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าวเปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันนี้มารับแม่ยาย ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนน่าเป็นห่วง หากปล่อยไว้จะยากต่อการอพยพ เพราะลูกหลานหลายคนอยู่ที่ กรุงเทพฯ จึงขอพาแม่ยายไปอยู๋ที่กรุงเทพฯ ก่อน หากสถานการณ์สงบนิ่งจริง ๆ ถึงจะพาแม่กลับมาบ้าน เพราะนิสัยคนเฒ่าคนแก่ไม่ชอบอยู่ต่างบ้านต่างเมือง

ครั้งนี้เป็นการอพยพครั้งที่ 2 แล้ว ที่ตนต้องขับรถหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อมาอพยพ จึงอยากให้ครั้งนี้รัฐบาลตัดสินใจให้เด็ดขาด แม้ใจไม่อยากให้มีการปะทะ แต่เมื่อเจรจาหลายครั้งแล้วไม่เป็นผลก็ควรตอบโต้ให้เด็ดขาดไป ไม่ปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้

ทั้งนี้ นายทวน ยังกล่าวย้ำอีกว่า เหตุการณ์ปะทะครั้งนี้ ต่างจากปี 2554 เพราะตอนนั้นหลังจากหยุดยิง ก็ไม่มีสถานการณ์ใดเกิดขึ้นอีก หยุดยิงคือหยุดยิงจริง ๆ แต่ครั้งนี้กลายเป็นว่า หยุดยิงแล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวอีก ชาวบ้านก็ไม่สบายใจ

ด้านนางเหลี่ยมทอง ชาติเหิม อายุ 83 ปี ก็ตอบด้วยความอัดอั้นตันใจว่า ไม่อยากอพยพออกไปไหน แต่ก็เข้าใจความเป็นห่วงของลูกหลาน เราแขนขาไม่ดี หากมีเหตุเกิดขึ้นจะเป็นภาระ ก็เห็นด้วยที่ลูกมารับไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ก่อน

"อยากให้รัฐบาลและทหารตอบโต้อย่างเด็ดขาด ให้ปัญหามันจบสิ้นไป และต้องตอบโต้ทางกำลังเท่านั้น เพราะ การเจรจาใช้ไม่ได้กับกัมพูชา ใจจริงหากมีปืนอยู่ในมือจะคว้าไปสู้รบด้วยตัวเอง แต่ติดที่ตอนนี้เดินไม่ไหว"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง