หลังสิ้นสุดการประชุมสมัชชาสงฆ์ครั้งที่ 33 ของกัมพูชา มีมติเรียกร้องให้พระสงฆ์ทั่วกัมพูชา ช่วยปกป้องอธิปไตย โดยการลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ชาวบ้าน-ทหาร เพื่อเยียวยาจิตใจ
วันนี้ (21 พ.ย. 68) สำนักข่าว “ขแมร์ ไทมส์” ของกัมพูชา รายงานว่า ในการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติ ครั้งที่ 33 ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ณ สถาบันการศึกษาแห่งชาติกัมพูชา และเพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันพุธ (19 พ.ย. 68) ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกร้องให้พระสงฆ์ทั่วประเทศมีบทบาทด้านมนุษยธรรมมากขึ้น โดยการเยี่ยมเยียนและให้การสนับสนุนผู้อพยพจากความขัดแย้งระหว่าง ไทย-กัมพูชา และสนับสนุนทหารและตำรวจที่ทุ่มเทป้องกันประเทศ โดยมีจุดประสงค์มุ่งหวังที่จะบรรเทาความยากลำบากของชุมชน และสนับสนุนรัฐบาลในการปกป้องสันติภาพ อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
คณะกรรมการบริหารคณะสงฆ์ 2 คณะ คือ คณะโมหะนิกายและคณะธรรมยุต ได้เห็นพ้องตกลงที่จะเสริมสร้างโครงสร้างผู้นำ ยกระดับคุณภาพการศึกษาทางพระพุทธศาสนา และส่งเสริมคำสอนและวินัยสงฆ์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และสิ้นสุดลงด้วยคำเรียกร้องอย่างเป็นเอกฉันท์
ทาง รองพระสังฆราชแห่งคณะโมหะนิกาย กล่าวย้ำว่า พระสงฆ์ทุกระดับชั้นทั่วกัมพูชา ควรมีส่วนร่วมในงานด้านมนุษยธรรม โดยการเยี่ยมเยียนและให้การสนับสนุนผู้พลัดถิ่น ทหาร และตำรวจ ผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ในการปกป้องประเทศชาติ สิ่งนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของสังคมและสนับสนุนภารกิจต่อเนื่องของรัฐบาลกัมพูชาในการปกป้องสันติภาพ อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
เมื่อผู้คนเผชิญกับความยากลำบาก ด้านร่างกายอาจพอรับไหว แต่ด้านสภาพจิตใจนั้นยากกว่ามาก ซึ่งพระสงฆ์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้คนสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ โดยพระสงฆ์ได้ดำเนินการอบรมด้านจิตวิทยาและศีลธรรมมาอย่างยาวนานให้กับโรงเรียน ชุมชน และแม้แต่เรือนจำ ปัจจุบัน การมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดน กัมพูชา-ไทย ซึ่งชาวบ้านจำนวนมากได้รับบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรง พระสงฆ์จึงควรเข้ามาช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานนี้ผ่านการชี้นำทางจิตใจและจิตวิญญาณ ซึ่งการนำการศึกษาด้านจิตวิทยามาผนวกเข้ากับคำสอนของพระพุทธศาสนา จะช่วยกระตุ้นให้พระสงฆ์ทั่วประเทศสามัคคีกันและรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพของชาวพุทธมากขึ้น ถ้าไม่มีพุทธศาสนิกชนถวายปัจจัย 4 แก่ภิกษุแล้ว พระสงฆ์ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ธำรงพระธรรมวินัยได้
โดยในการประชุมดังกล่าว “สมเด็จฯ ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม โดยกล่าวว่า คณะสงฆ์เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา ชี้นำเยาวชนด้านศีลธรรม และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคมในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูค่านิยมกัมพูชาที่ส่งเสริมความซื่อสัตย์ สันติภาพ และความสามัคคีของชาติ และเรียกร้องให้รัฐบาล คณะสงฆ์ และประชาชน ร่วมมือกันอนุรักษ์และส่งเสริมพระพุทธศาสนาในกัมพูชา ด้วยการเสริมสร้างความเป็นผู้นำและการบริหารจัดการของภาคส่วนนี้ และส่งเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคำสอนทางพุทธศาสนาซึ่งมีรากฐานมาจากความจริงและความยุติธรรมทางสังคม