ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาน้ำลดต่อเนื่อง สำหรับปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ นายกเล็กใช้ระบบเติมน้ำหมุนเวียนน้ำเน่า

ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาน้ำลดต่อเนื่อง สำหรับปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ นายกเล็กใช้ระบบเติมน้ำหมุนเวียนน้ำเน่า

View icon 103
วันที่ 24 พ.ย. 2568 | 09.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาน้ำลดต่อเนื่อง ด้าน นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก สำหรับปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ ทางเทศบาลได้ระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังให้น้ำหมุนเวียน

วันที่ 24 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเริ่มมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางกรมชลประทานได้มีการทยอยปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิม 2,370 ลบ.ม.วินาที เป็นอัตรา 2,270 ม.วินาที ทำให้ระดับน้ำลดลง 24 ซม. เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า และเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ

ซึ่งปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,570 ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.96 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.39 เมตร/รทก.ห่างจากตลิ่ง 95 ซม. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,270 ลบ.ม.วินาที

ซึ่งแม้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อย่างเช่นในพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงมีระดับน้ำท่วมสูงอยู่ ชาวบ้านยังคงอาศัยอยู่ยังที่พักชั่วคราวริมถนนสายคันคลองมหาราช และยังคงต้องใช้เรือเพื่อพายเข้าออกบ้าน โดยหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ทางด้านนายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก เปิดเผยว่า หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาได้มีการปรับลดการระบายน้ำลงสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่เริ่มคลี่คลาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่เกือบ 2 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงบางจุดท่วมขังสูงสุดเหลือ 1-1.50 เมตร แล้วแต่พื้นที่ บางพื้นที่เรือใช้ไม่ได้บ้างแล้วต้องเดินลุยน้ำ สำหรับปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ ทางเทศบาลได้ระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังให้น้ำหมุนเวียน จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขัง ส่วนเรื่องการสูบน้ำฟื้นฟู น่าจะต้องรอให้ลดการระบายเหลือประมาณ 2,000 ลบ.ม./วินาที แล้วจึงจะนำเครื่องสูบน้ำเข้าเพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชน