ราชทัณฑ์ เผย ตรวจไม่เจอใช้งบประมาณสร้างห้องลับ ยัน จู่โจมคุกไม่ใช่ล้างบางขั้วอำนาจเก่า

ราชทัณฑ์ เผย ตรวจไม่เจอใช้งบประมาณสร้างห้องลับ ยัน จู่โจมคุกไม่ใช่ล้างบางขั้วอำนาจเก่า

View icon 291
วันที่ 26 พ.ย. 2568 | 17.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คืบหน้าคุก VIP ราชทัณฑ์ เผย ตรวจไม่เจอใช้งบประมาณสร้างห้องลับ พบบินนอกถี่จริง 70-80 ครั้ง ยัน จู่โจมคุกไม่ใช่ล้างบางขั้วอำนาจเก่า

วันนี้ (26 พ.ย.68) นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคุก VIP ว่า คณะกรรมการกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะตรวจสอบประเด็นการเดินทางออกนอกประเทศด้วย ซึ่งต้องพิจารณาว่าเดินทางไปที่เดิมซ้ำๆ หรือถี่ขึ้นจะผิดปกติหรือไม่ การเข้าออกบ้างพื้นที่จะผิดหรือไม่ และมีการขออนุญาต หรือแจ้งลาพักร้อนหรือไม่ เพราะจะถือเป็นการละทิ้งหน้าที่ หากเรือนจำเกิดเหตุจลาจล

ส่วนการปรับปรุงห้องลับ เดิมห้องดังกล่าวถูกใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ป้องกันระงับเหตุ โดยปกติการปรับปรุงเรือนจำจะต้องขออนุญาตกรมราชทัณฑ์ก่อน และจะใช้เงินจาก 3 แหล่งคือ 1.งบประมาณ 2.เงินสวัสดิการร้านค้า และ 3.เงินทุนหมุนเวียนจากฝ่ายฝึกวิชาชีพ ตอนนี้ตรวจสอบเอกสารงบประมาณแล้วยังไม่พบว่ามีการเบิกจ่ายเงิน จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าเงินที่ใช้ปรับปรุงห้องลับมาจากไหน ยังต้องเรียกตรวจเอกสารเพิ่มอีก 2 แหล่ง และต้องตรวจสอบว่ามีเอกสารขอปรับปรุงห้องด้วยหรือไม่ ยอมรับว่าไม่เคยมีใครรู้เรื่องห้องดังกล่าว กระทั่งในวันเข้าตรวจค้นจู่โจมจึงพบ

นายยุทธนา ยอมรับด้วยว่า ไม่ได้มีคำสั่งย้ายพัศดีเวร เนื่องจากวันที่เข้าจู่โจมครั้งแรกไม่พบว่ามีพัศดีเวรอยู่ในเรือนจำ ส่วนที่ย้ายเจ้าหน้าที่ 19 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องห้องลับทั้งหมด แต่มีกรณีที่พบสิ่งของต้องห้าม เช่น ตู้เย็น มีด เหล็ก อยู่ในเรือนจำด้วย ส่วนผู้ต้องขังจีน 2 รายที่พบ เป็นผู้ต้องขังที่จีนขอส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน 1 ราย และเป็นผู้ต้องขังคดีสแกมเมอร์ 1 ราย หลังจากนี้จะทยอยจู่โจมแดนอื่นๆ ที่เหลือให้ครบ

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ให้สัมภาษณ์ถึงต้นเหตุการเข้าตรวจค้นว่าเป็นการล้มล้างขั้วอำนาจเก่านั้น นายยุทธนา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อสมมติฐานดังกล่าว เพราะคนที่มีอำนาจแต่งตั้งผู้บัญชาการเรือนจำก็คืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นขั้วอำนาจไหน อีกทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนปัจจุบันก็เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงเดือนกว่า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าอาจเป็นความขัดแย้งระหว่างนักโทษไทยกับนักโทษจีน เพราะเห็นว่านักโทษจีนมีสิทธิพิเศษไม่เท่ากัน

ด้าน นายไพฑูรย์ มงคลหัตถี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เผยว่า เจ้าหน้าที่ 19 คน มีหลายหน้าที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจสอบว่าใครบกพร่องจุดไหน ส่วนประเด็นเดินทางออกนอกประเทศ พบข้อเท็จจริงว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ 70-80 ครั้ง ส่วนมากจะเดินทางในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วมีมูลก็จะเสนอให้พิจารณาวินัยต่อไป ส่วนกรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน กรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องเป็นทางดีเอสไอที่รับหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ โดยวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะรายงานผลให้ รมว.ยุติธรรม ทราบ