ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัยในฮ่องกง พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 44 คน และมีผู้สูญหายเกือบ 300 คน ขณะที่ตำรวจฮ่องกง จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ของบริษัทก่อสร้างอาคารดังกล่าว ข้อหาฆ่าคนโดยไม่เจตนา
วันนี้ (27 พ.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากเหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักแห่งหนึ่งในเขตไท่โป ทางตอนเหนือของฮ่องกง เมื่อวานนี้ (26 พ.ย. 68) มีผู้คนหลายคนติดอยู่ภายในอาคาร โดยอาคารดังกล่าวประกอบด้วย 8 อาคาร มีที่พักอาศัยเกือบ 2,000 ยูนิต สูงกว่า 31 ชั้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง เผยว่า ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปเป็นอย่างน้อย 44 คน และสูญหายเกือบ 300 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำงานตลอดคืน เพื่อเข้าถึงตัวผู้คนติดอยู่ภายในอาคารที่อาจติดอยู่บนชั้นบนของอาคาร และขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไหม้ที่ลุกลามเป็น 4 ช่วงตึกได้แล้ว และยังคงปฏิบัติการควบคุมเพลิงใน 3 ช่วงตึก หลังจากใช้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ตำรวจฮ่องกง ยังเผยว่า นอกจากอาคารต่าง ๆ ที่คลุมด้วยแผ่นตาข่ายป้องกันและพลาสติกซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยแล้ว ยังพบว่าหน้าต่างบางบานของอาคารแห่งหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบถูกปิดผนึกด้วยวัสดุโฟมที่ติดตั้งโดยบริษัทก่อสร้าง ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ซึ่งนำไปสู่เหตุสลดครั้งนี้และทำให้ไฟลุกลามอย่างควบคุมไม่ได้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้ชาย 3 คน ซึ่งประกอบด้วย กรรมการ 2 คน และที่ปรึกษาทางวิศวกรรม 1 คน จากบริษัทก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้ถูกจับกุมในข้อสงสัยว่าฆ่าคนโดยไม่เจตนาจากเหตุเพลิงไหม้
ทาง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้ขอให้รัฐบาลท้องถิ่นอื่น ๆ ช่วยเหลือฮ่องกง
ขณะที่ จอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการดับไฟและช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร และสิ่ง 2 คือการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และเรื่องที่ 3 คือการช่วยเหลือและฟื้นฟู จากนั้นเราจะเริ่มการสอบสวนอย่างละเอียด ขณะนี้มีผู้ที่ไม่สามารถติดต่อได้ประมาณ 279 คน และอีก 900 คนต้องอยู่ในศูนย์พักพิง 8 แห่ง