วันนี้ (29 พ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าญาติได้เร่งนำตัว น.ส.เพ็ญศรี อายุ 44 ปี นำส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน ในสภาพใบหน้า แขนข้างซ้าย นิ้วมือทั้งสองข้างและบริเวณหน้าอกซ้ายมีรอยไหม้เกรียม
จากการสอบถามนางสำรวย อายุ 46 ปี พี่สาวคนเจ็บเล่าว่าเนื่องจากในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีอากาศอากาศหนาวเย็น มีอุณหภูมิลดลงถึง 14 – 15 องศาเซลเซียส ช่วงเช้าแม่และน้องสาว จึงได้ก่อกองไฟ ข้างบ้านเพื่อผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่นเพื่อที่จะคลายความหนาว
จากนั้นแม่ได้ลุกไปใส่บารตรให้พระที่มาบิณฑบาตรอยู่หน้าบ้าน ปล่อยให้ น.ส.เพ็ญศรี ซึ่งเป็นใบ้และมีโรคประจำตัว คือโรคลมชักนั่งผิงไฟอยู่เพียงคนเดียว
โดยตนเองได้เปิดประตูบ้านออกมาพบว่า น.ส.เพ็ญศรี น้องสาวหน้าทิ่มไปที่กองไฟที่กำลังลุกไหม้แล้ว จึงรีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้คาดว่าช่วงที่น้องสาว ผิงไฟอยู่เพียงคนเดียวเกิดโรคลมชักอาจจะกำเริบชักจนหมดสติ ทำให้ล้มหน้าทิ่มใส่กองไฟ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถือว่าโชคดีที่ตนเองมาพบก่อน
ทางด้านนางทองคำ อายุ 70 ปี แม่คนเจ็บเล่าว่าลูกสาวบ่นว่าอากาศหนาวตนเองจึงก่อกองไฟให้ผิงไฟคลายหนาวและนั่งเล่นเป็นเพื่อนลูกสาว ถือว่าโชคดีที่ลูกสาวอีกคนหนึ่งมาเจอก่อนไม่งั้นอาจจะเสียชีวิตได้
ส่วนอาการของ น.ส.เพ็ญศรี มีไฟไหม้ทั่วบริเวณใบหน้า หน้าอกซ้ายและแขนซ้าย แพทย์ได้ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านด่านก่อน