สีหศักดิ์ ชง รัฐภาคีตั้ง กก.อิสระ

View icon 39
วันที่ 1 ธ.ค. 2568 | 07.09 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - กระทรวงการต่างประเทศไทย เตรียมชงที่ประชุมอนุสัญญา "ออตตาวา" ตั้งทีมสอบความจริงใจของกัมพูชา หลังมีพลเรือนชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดในฝั่งไทย

สีหศักดิ์ ชง รัฐภาคีตั้ง กก.อิสระ
เหตุชายชาวจีนที่ลักลอบข้ามจากกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทย บริเวณบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่่ 29 พฤศจิกายน และเหยียบทุ่นระเบิด จนข้อเท้าซ้ายขาด

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐอินเดีย จึงใช้โอกาสนี้ ชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เพราเหตุใดไทยจึงต้องฉีกปฏิญญาสันติภาพร่วม ที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากยังมีทหารไทยโดนทุ่นระเบิดเพิ่ม และครั้งหลังสุด ก็เป็นพลเรือนชาวจีน

หลังการเยือนสาธารณรัฐอินเดีย นายสีหศักดิ์ ก็จะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐภาคีว่าด้วยอนุสัญญา "ออตตาวา" ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทันที ซึ่งไทยได้รายงานเรื่องนี้ไปก่อนแล้ว และการไปครั้งนี้ จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเหตุการณ์ล่าสุด เพราะกัมพูชายังหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ดังนั้น ไทยจะเสนอให้ตั้งคณะทำงานที่มีความเป็นอิสระ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ป้องกันไม่ให้กัมพูชาหลีกเลี่ยงในการชี้แจงได้อีก ส่วนองค์ประกอบของคณะทำงานจะมีใครบ้าง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุมรัฐภาคี

นิสัยไม่เปลี่ยน ! กัมพูชาปัด ทุ่นระเบิดใหม่ ซุกฝั่งไทย
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พลโทหญิง มาลี โสเจียตา อ้างข้อมูลจากกรมตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันไม่พบประวัติการลงทะเบียนในฐานข้อมูลการเข้า-ออกกัมพูชา ของชาวจีนรายนี้ ย้ำว่าจุดเกิดเหตุยังเต็มไปด้วยวัตถุระเบิดเก่าที่ยังไม่ทำงาน เป็นซากของความขัดแย้งในอดีต จึงไม่ใช่ทุ่นระเบิดใหม่

และจากหลักฐานยังชี้ว่า ชาวจีนคนดังกล่าวพยายามข้ามฝั่งจากไทยเข้ามากัมพูชา ขัดแย้งกับการรายงานของไทย ที่บอกว่าเดินทางจากกัมพูชาเข้ามาไทย เพราะจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนลาดยางของไทยเพียง 100 เมตร และห่างจากถนนของกัมพูชาประมาณ 210 เมตร นอกจากนี้ ยังพกเงินไทยติดตัวมาด้วย จึงไม่ทราบมูลเหตุจูงใจว่า ทำไมชาวจีนคนดังกล่าวจึงข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชา

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ สรุปผลการปฏิบัติ ตั้งแต่ 30 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน ที่บ้านชำราก อำเภอเมืองตราด คืนพื้นที่ปลอดภัยแล้ว 42,471 ตารางเมตร คิดเป็น 9.72 % คงเหลือพื้นที่ต้องสงสัย และยืนยันว่ามีทุ่นระเบิดอีก 394,369 ตารางเมตร คิดเป็น 90.28 %

การกวาดล้างทุ่นระเบิด พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล จำนวน 16 ทุ่น และกระสุนปืนใหญ่ที่ยังไม่ระเบิดอีกเป็นจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง