Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 2 ธ.ค. 68
1.น้ำท่วม-ดินถล่มในอินโดฯ เสียชีวิตพุ่งเกิน 600 คน
ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มบนเกาะสุมาตรา จากพายุไซโคลนพัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 604 คน บาดเจ็บหลายพันคน และยังสูญหายอีกอย่างน้อย 464 คน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่ ประชาชนเริ่มพากันกลับเข้าไปสำรวจความเสียหายในบ้านเรือนของตนเอง พร้อมทำความสะอาดซากดินโคลนและต้นไม้ที่ถูกซัดมา ส่วนบางคนก็พยายามกู้ทรัพย์สินและของมีค่าที่ยังหลงเหลืออยู่ รวมทั้งตามหาญาติที่สูญหาย
ทั้งนี้ เหตุน้ำท่วมรุนแรงและดินถล่มครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชน 1.5 ล้านคน บ้านเรือนมากกว่า 28,000 หลัง ได้รับความเสียหาย บางพื้นที่ยังคงถูกตัดขาด ขณะที่ ทางการกำลังเร่งฟื้นฟูความเสียหาย ทั้งการเปิดเส้นทางสัญจรทางถนน, สะพาน และกู้ระบบการสื่อสาร
2.ผู้นำฮ่องกงสั่งสอบสวนเต็มรูปแบบ เหตุเพลิงไหม้อาคาร
สำนักข่าว "ซินหัว" ของจีน รายงานว่า วันนี้ (2 ธ.ค.) จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เผยว่ารัฐบาลฮ่องกงจะจัดตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีผู้พิพากษาเป็นประธาน เพื่อดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารพักอาศัยที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้โดยละเอียด และรับรองว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ซึ่งกองกำลังตำรวจฮ่องกงจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 13 คน ฐานต้องสงสัยฆ่าคนโดยไม่เจตนา
ผู้นำฮ่องกงย้ำว่ารัฐบาลฮ่องกงกำลังดำเนินหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ การเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว การจัดให้ประชาชนราว 2,500 คน เข้าพักในที่พักชั่วคราวและโรงแรม
นอกจากนี้ เขายังชี้ว่าการปฏิรูปเชิงระบบเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวในหลายส่วน พร้อมทั้งระบุว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุไฟไหม้ และรัฐบาลฮ่องกงจะจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดและการสนับสนุนอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการสืบสวน และคณะกรรมการจะส่งคำแนะนำและรายงานให้กับเขา
ทั้งนี้ เหตุการณ์ไฟไหม้อาคารพักอาศัยครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไป 151 คน บาดเจ็บอีก 79 คน และยังมีผู้สูญหายอีกราว 30 คน
3.พายุหิมะถล่มสหรัฐฯ ทำรถชนกันระนาวกว่า 40 คัน
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 45 คัน ชนกันบนถนนทางหลวงข้ามรัฐสาย 70 บริเวณรัฐอินดีแอนา เนื่องจากถนนถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ทำให้เป็นอันตรายต่อการขับขี่ เคราะห์ดีไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัส ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง กว่าจะเปิดเส้นทางให้กลับมาใช้ได้ตามปกติ
ส่วนที่รัฐมิสซูรี กล้องจราจรที่บันทึกไว้วานนี้ (1 ธ.ค.) เผยให้เห็นสภาพการจราจรที่เคลื่อนตัวอย่างล่าช้า เนื่องจากประชาชนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการขับขี่
ขณะที่ พยากรณ์อากาศคาดว่ากระแสลมหนาวจัดจากแคนาดาจะพัดพาหิมะเข้ามาในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งตั้งแต่รัฐมิชิแกนไปจนถึงตอนกลางของนิวอิงแลนด์ และทำให้ชาวอเมริกันกว่า 16 ล้านคน ต้องอยู่ภายใต้คำเตือนพายุฤดูหนาว
4.ทำเนียบขาวเผยโฉมการประดับตกแต่งรับวันคริสต์มาส
นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ นำชมห้องต่าง ๆ ในทำเนียบขาวที่ประดับประดาด้วยของประดับตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ซึ่งรวมถึงต้นคริสต์มาสหลายสิบต้นและภาพเหมือนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยธีมประจำปีนี้คือ "บ้านคือที่ที่หัวใจอยู่" ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่า สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากความสุข ความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของความเป็นแม่และชีวิตการทำงาน
การประดับตกแต่งของสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 250 ปีของการประกาศอิสรภาพสหรัฐฯ ในปีหน้า โดยผสมผสานองค์ประกอบความรักชาติเข้ากับสีสันของเทศกาลตามประเพณี และจัดแสดงอย่างประณีตบรรจง
ทั้งนี้ สิ่งที่แตกต่างไปในปีนี้คือการหายไปของต้นคริสต์มาสประจำฝั่งตะวันออก เนื่องจากปีกตะวันออกและเสาระเบียงถูกทำลายลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตามแผนการสร้างห้องจัดเลี้ยงแห่งใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์
5.กองทัพรัสเซีย โว ยึดเมืองแนวหน้าของยูเครนได้ 2 เมือง
พลเอกอาวุโส วาเลอรี เกราซีมอฟ เสนาธิการกองทัพรัสเซีย ได้รายงานให้ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ทราบว่า กองกำลังรัสเซียได้ยึดเมืองแนวหน้าของยูเครนได้ 2 เมือง คือ โพครอฟสก์ (Pokrovsk) และโวฟชานสก์ (Vovchansk) ได้แล้ว และกำลังรุกคืบเข้าไป
ทางสำนักข่าวรัสเซีย รายงานว่า “ปูติน” ได้เอ่ยปากชมว่า นี่เป็นทิศทางที่สำคัญ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีแนวทางต่อไปตามภารกิจที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และกองทัพรัสเซียจะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป และกำลังรุกคืบไปในทุกทิศทาง นอกจากนี้อีก 1 ภารกิจที่ต้องทำคือการสร้าง "เขตปลอดภัย" ตามแนวชายแดน รัสเซีย-ยูเครน เพื่อป้องกันการโจมตีของยูเครน
นอกจากนี้ “วาเลอรี เกราซีมอฟ” ยังได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า กองทัพรัสเซียจะเดินหน้ายึดครองภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยเมืองโดเนตสค์ และเมืองลูฮันสค์ ต่อไป
ทั้งนี้ โดยการประกาศครั้งนี้ของรัสเซีย เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กำลังเจรจาที่กรุงปารีส และก่อนหน้าการประชุมของตัวแทนรัสเซีย กับ “สตีฟ วิตคอฟฟ์” ทูตสหรัฐฯ ที่กรุงมอสโก เกี่ยวกับแผนสันติภาพที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ดำเนินมานานกว่า 3 ปี