“โดนัลด์ ทรัมป์” กล่าว สหรัฐฯ จะเริ่มโจมตีทางบกใส่แก๊งลักลอบค้ายาเสพติด ในแถบทะเลแคริบเบียน ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากง่ายกว่าทางทะเล และสหรัฐฯ รู้เส้นทางที่แก๊งค้ายาใช้ดี ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ สังหารไปแล้ว 83 คน
วันนี้ (3 ธ.ค. 68) สำนักข่าว "ซินหัว" รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ที่ผ่านมา และได้กล่าวขอบคุณกองบินทิ้งระเบิดที่ 7 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ หลังปฏิบัติการปราบปรามขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดชาวเวเนซุเอลา พร้อมประกาศการปราบปรามทางทะเลสำเร็จประมาณ 85 % และจะเริ่มต้นการปราบปรามทางบก
โดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ได้ดำเนินการโจมตีเรือที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ายาเสพติดในทะเลแคริบเบียน และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอย่างน้อย 21 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ส่งเรือรบราว 12 ลำ รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินรบยูเอสเอส เจอร์รัลด์ อาร์. ฟอร์ด และกำลังพลประมาณ 15,000 นาย ไปยังทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีแนวชายฝั่งติดกับเวเนซุเอลา โดยภูมิภาคนี้ไม่เคยมีกำลังทหารสหรัฐฯ ประจำการมากเช่นนี้มานานอย่างน้อยสามทศวรรษ
ด้านนักวิจารณ์รวมถึงสมาชิกสภาคองเกรส ได้ตั้งคำถามว่า ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดคือแรงจูงใจเดียวของสหรัฐฯ จริงหรือไม่ และสหรัฐฯ มีความชอบธรรมในการปฏิบัติการทางทหารในทะเลแคริบเบียนเป็นเวลานานหลายเดือนหรือไม่
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่า "กุเรื่อง" เพื่อเปิดทางสู่การทำสงครามที่มุ่งโค่นล้มรัฐบาลของตน