สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

View icon 101
วันที่ 3 ธ.ค. 2568 | 20.04 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 09.51 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ตั้งขึ้นเมื่อปี 2520 เมื่อแรกสร้างมีเพียงห้องเรียนขนาดเล็ก หลังคามุมหญ้าแฝก ภายหลังผู้ปกครอง หน่วยราชการและภาคเอกชน ช่วยพัฒนา และปรับปรุงเรื่อยมา ปัจจุบันมีอาคารเรียนหลังใหม่ มีการเรียนการสอนและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
    
ทั้งนี้ผลการประเมินความสามารถ ด้านการฟัง พูด อ่านและเขียน ของนักเรียนโรงเรียน ตชด. สังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ปีการศึกษา 2567 อยู่ในระดับดี, สำหรับการดำเนินงานของโรงเรียนฯ ประสบผลสำเร็จดีทุกด้าน มีอาคารพยาบาล พร้อมตู้ยาพระราชทาน รักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นและให้ความรู้เรื่องการป้องกันตัวเองจากโรคภัยต่าง ๆ

ในการนี้ มีพระราชดำริให้ครูแนะนำและสอนการใช้ไหมไทยขัดฟัน ในชั้นประถมศึกษา ซึ่งเป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้น จะทำให้ร่องฟันสะอาด ฟันไม่ผุ, มีอาคารสหกรณ์ เป็นสถานที่ฝึกทักษะการทำงานร่วมกันและเรียนรู้การจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ, ส่วนกิจกรรมฝึกวิชาชีพ นักเรียนชายได้สาธิตซ่อมจักรยาน และตัดผม ทุกคนมีความสุข สนุก และภูมิใจที่สามารถลงมือทำได้ด้วยตนเอง, ด้านกิจกรรมประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารเสริมนม จัดเมนูอาหารคาว อาหารหวาน มีผู้ปกครองช่วยประกอบเลี้ยง

โอกาสนี้ ได้ทอดพระเนตรกิจกรรมแปรรูปกล้วยน้ำว้าของนักเรียน และผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร คิดทำคุกกี้ข้าวกล้อง ทองม้วน น้ำยาล้างจาน ไม้กวาด และเปลจากเศษผ้า จำหน่ายผ่านสหกรณ์โรงเรียน

ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน แบ่งพื้นที่ทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ ผลผลิตมีพอบริโภค ส่วนไม้ผลมีมาก แบ่งให้นักเรียนนำกลับไปบริโภคที่บ้าน รวมถึงขยายสู่ชุมชนต่อไป ที่สำคัญคือการเลี้ยงแหนแดง พืชสารพัดประโยชน์ เลี้ยงได้ดี นักเรียนคิดนำแหนแดงไปทำเป็นโครงงานต่าง ๆ เช่น ผสมกับใบอ้อยทำเป็นกระดาษ, เป็นส่วนผสมของขนม และทำเป็นปุ๋ยพืชสด ได้รับรางวัลสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนในหลายเวที

โอกาสนี้ พระราชทานถุงยังชีพแก่หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 พร้อมทอดพระเนตรหลุมหลบภัยของโรงเรียน สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2534 ไม่เคยใช้งาน หลบภัยได้ 80 คน เดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มอีก 1 แห่ง ด้านหลังโรงเรียน หลบภัยได้ 120 คน ซึ่งเพียงพอกับจำนวนนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน พร้อมกันนี้ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ได้ดำเนินงานตามพระราชกระแสเรื่องการสร้างพื้นที่ปลอดภัย จัดสร้างหลุมหลบภัยพระราชทาน ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวังศรีทอง และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการบินไทย เพื่อให้นักเรียนมีที่หลบภัย สร้างความอุ่นใจแก่ผู้ปกครองและชุมชน

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน, หน่วยทันตกรรมพระราชทาน และทรงเยี่ยมราษฎรจากบ้านหนองหญ้าปล้อง บ้านภูน้ำเกลี้ยง และบ้านใหม่ดีงาม ซึ่งเป็นเขตบริการของโรงเรียน รวมถึงราษฎรจากพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งตั้งใจเดินทางไปตรวจสุขภาพและเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

เวลา 13.12 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานของสถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ซึ่งมีหน้าที่แบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล ทั้งด้านการรักษาพยาบาล บรรเทาทุกข์ บริการโลหิต และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ดูแลพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาทุกข์และสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้งจากมนุษย์ และธรรมชาติ

ที่ผ่านมาได้จัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์, ซ้อมแผนเผชิญเหตุ ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย, จัดทีมเจ้าหน้าที่พยาบาลออกเยี่ยมศูนย์พักพิงต่าง ๆ เยี่ยมชุมชนและโรงเรียน เพื่อให้ความรู้ ผ่านพ้นสถานการณ์ภัยต่าง ๆ ไปได้อย่างปลอดภัยและเข้มแข็ง

นอกจากนี้ยังดำเนินโครงการ "หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี" ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ป่วยโรคตาในท้องถิ่นทุรกันดาร บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งตั้งแต่ปี 2538 ถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยรักษาโรคทางตา เป็นผู้ป่วยนอกกว่า 263,000 คน เข้ารับการผ่าตัดกว่า 45,000 คน ส่วนใหญ่ผ่าตัดต้อกระจก ต้อเนื้อ และต้อหิน และมีรถจักษุเคลื่อนที่ ออกหน่วยรับรักษาผู้ป่วยด้านตา ในท้องถิ่นทุรกันดาร เพื่อสนองพระราชปณิธาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานความช่วยเหลือราษฎรให้เข้าถึงการแพทย์ และการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา "เป็นการช่วยเหลือกัน คนไทยไม่ทิ้งกัน"

ข่าวอื่นในหมวด