สุดรันทด ย่า หอบหลาน 2 คน หนีพ่อทาสยา ขังลูกไม่ให้ไปเรียน อ้างไปเรียนก็ไม่มีประโยชน์

สุดรันทด ย่า หอบหลาน 2 คน หนีพ่อทาสยา ขังลูกไม่ให้ไปเรียน อ้างไปเรียนก็ไม่มีประโยชน์

View icon 19
วันที่ 5 ธ.ค. 2568 | 10.46 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สุดรันทด ย่า หอบหลาน 2 คน หนีพ่อทาสยา ขังลูกไม่ให้ไปเรียน อ้างไปเรียนก็ไม่มีประโยชน์ ซ้ำ พาลูกซ้อน จยย.ไปซื้อยาบ้า หลังย่ารู้เรื่องจึงไม่ให้ใช้รถจักรยานยนต์ โมโหจัดจุดไฟเผาบ้านอีก ขณะที่ ย่าเผย พอแล้วกับลูกชายคนนี้ขอให้ติดคุกไปนานๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ (13.30 น.) 4 ธ.ค. พ.ต.อ.ญาณกร ตรีเทพา ผกก.สภ.ช่องเม็ก พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ช่องเม็ก นำกำลังเข้าจับกุม นายฉัตรชัยอายุ 33 ปี ที่บ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี  หลังจากที่นางณี อายุ 53 ปี มารดาของนายฉัตรชัย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ช่องเม็กว่า นายฉัตรชัย มีอาการเมายาบ้าโวยวายและเผาทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหาย

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม พบว่าไฟกำลังลุกไหม้สว่านไฟฟ้าอยู่บริเวณหน้าต่าง ด้านในของบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวนายฉัตรชัย และทำการดับไฟสำรวจโดยรอบมีทรัพยสินที่ได้รับความเสียหายเป็นสว่านไฟฟ้า 1 ตัว

ตรวจสอบภายในบ้านพบร่องรอยคราบเขม่าควันไฟหลายจุด พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าถูกทุบจนเครื่องแตก 1 คัน สอบถามเบื้องต้นนายฉัตรชัยให้การว่าตนเองเป็นผู้ที่จุดไฟและทำลายรถจักรยานยนต์จริง เนื่องเพิ่งเสพยาบ้าที่ได้จากเพื่อนไป 2 เม็ด นายฉัตรชัยบอกว่าตนเองรู้สึกโกรธที่แม่ไม่ให้ยืมรถจึงได้ทุบรถและเผาบ้านก่อนจะเตรียมหลบหนีไปกรุงเทพ ในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายฉัตรชัย 3 ข้อหา คือวางเพลิงเผาทรัพย์  ทำให้เสียทรัพย์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย และจะทำการสอบสวนขยายผล หากพบว่าการกระทำความผิดอื่นใดก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

นายอมรชัย ศรีตะคุ อายุ 51 ปี ประธานกรรมการกลุ่ม อมตะกรุ๊ป กล่าวถึงช่วยเหลือครั้งนี้ว่า ตนเองได้รับการร้องขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่โนนก่อ ให้เข้าช่วยเหลือ นางณี และ ด.ช.เอ อายุ 9 ปี และ ด.ช.บี อายุ 12 ปี หลังจากที่ต้องหอบเสื้อผ้าหลบหนีนายฉัตรชัย ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของ ด.ช.เอ ด.ช.บี มาอยู่เพิงพักในสวนยางของชาวบ้าน เพราะนายฉัตรชัยมีการติดยาเสพติดคุ้มคลั่งอย่างรุนแรง

เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าทั้ง 3 คน ต้องมาอยู่ในเพิงพักในส่วนยางของชาวบ้านอย่างลำบาก เนื่องเพิงพักดังกล่าวไม่มีผนังป้องกันลมหนาว มีเพียงเตียงตัวเดียวเสื้อผ้าเครื่องใช้มีติดตัวมาไม่กี่ชิ้น ตนจึงได้จัดหาเครื่องใช้ที่จำเป็นมาให้พร้อมทั้งสอบถามข้อเท็จจริง   ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านในชุมชนที่เกิดเหตุ พบว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง  จึงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปปรึกษากับนายปัฐพงษ์  ขอจงสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมทอง และ พ.ต.อ.ญาณกร  ตรีเทพา ผกก.สภ.ช่องเม็ก ฝ่ายปกครอง จนมีการดำเนินการเข้าจับกุมนายฉัตรชัยดังกล่าว

นางณี เล่าว่า นายฉัตรชัยปกติก็กินอยู่กับตนเอง แต่เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็จะด่าทอ ตนเองออกไปทำงานกลับบ้านมาก็เหนื่อย ซื้อข้าวสารมา นายฉัตรชัยก็เอาไปหมดจนหลานไม่ได้กินข้าวเลย ตนเองรู้สึกทนไม่ไหวจึงได้พาหลานเก็บเสื้อผ้าหนีมาอยู่สวนยาง เพราะถ้าหากตนเองไม่หนีออกมาก็อาจจะมีสิทธิ์ตายได้เพราะมีความรุนแรงขึ้นทุกวัน

ล่าสุด มีการขังลูกชายเอาไว้ไม่ให้ไปเรียน หลานบอกว่า พ่อไม่ให้ไปโรงเรียน พ่อบอกว่าเรียนไปก็ไม่ได้ประโยชน์ หลานบอกอีกว่า นายฉัตรชัย พาหลานนั่งซ้อนจักรยานยนต์ไปซื้อยาบ้า มาแล้ว 2 ครั้ง ตนจึงยึดจักรยานยนต์ไว้ไม่ให้เอาไปใช้ซื้อยา สำหรับลูกชายตอนนี้พอแล้ว รักลูกแต่ทำกับตนเหมือนกับไม่ใช่แม่พอแล้ว ติดคุกครั้งนี้อยากให้อยู่นานๆเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง