เจาะประเด็นข่าว 7HD - กรณีการเสียชีวิต "นัท ปง" นักข่าวช่อง 8 ที่เสียชีวิตผิดธรรมชาติ เพราะพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย หลายคนที่ติดตามข่าวให้ความสนใจ "อาหารมื้อสุดท้าย" ที่รับประทานร่วมกับเพื่อนในวันเกิดเหตุ
ก่อนเกิดเหตุวันที่ 30 พฤศจิกายน หลังจาก นายณัฐวุฒิ ปงลังกา นักข่าวช่อง 8 หรือ "นัท ปง" ขับรถกลับถึงบ้านพัก ย่านบางกรวย เวลา 02.14 น. อีก 13 นาทีถัดมา นางสาวออ ขับรถเก๋ง สีขาว ลงมากับผู้ชาย 1 คน ทั้งคู่ถืออาหารเดินเข้าบ้านพักไป
ที่โต๊ะอาหารภายในบ้าน มีเพื่อนร่วมทานอาหารและดื่มสังสรรค์ ร่วมกับ "นัท ปง" รวม 4 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 2 คน คือ "นางสาวโอ" และ "นางสาวออ" ส่วนอีก 2 คน คือ "นายต้น" และ "นายบิ้ก"
ทุกคนบนโต๊ะดื่มสุรา ยกเว้น "นางสาวออ" ทานไวด์ และให้ข้อมูลเพิ่มว่า "นายต้น" เป็นคนเติมน้ำแข็งให้ "นัท ปง"
04.42 น. "นัท ปง" ออกมาทิ้งขยะหน้าบ้านพัก จากนั้นก็เข้าไปในบ้าน พอใกล้รุ่งสาง เวลา 05.36 น. นางสาวโอ ขอตัวกลับก่อนเป็นคนแรก ก่อนเรียกรถมารับตนที่หน้าบ้านพัก และ 3 นาทีถัดมา เวลา 05.39 น. "นางสาวออ" ก็ออกขึ้นรถของตนที่จอดอยู่หน้าบ้านแล้วขับออกไป
ช่วงนี้ทุกคนแยกย้ายกลับไปพักผ่อน มีรายงานว่า "นายบิ้ก" ขึ้นไปนอนบนห้องพักชั้น 2 ส่วน "นัท ปง" เดินตามไป แต่สุดท้าย "นัท ปง" ก็ลงมานอนที่ห้องพักชั้นล่างลำพัง
รุ่งเช้า เวลา 06.52 น. "นายต้น" เดินออกมาเปิดประตูบ้านพัก แล้วเดินออกจากบ้านไป เวลานี้หลายบ้านตื่นมาใช้ชีวิตประจำวัน
เวลา 07.23 น. เป็นช่วงเวลาที่หลายคนคาใจ และเป็นช่วงเดียวกันกับที่กล้องวงจรปิดข้างบ้าน บันทึกเสียงร้อง "โอย" ดังมา 1 คำ จากบ้านพักของ "นัท ปง" โดยไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
ทีมข่าวไปสอบถามเพื่อนบ้าน ชื่อ นางสาวกันยา บอกว่า เวลานั้น ได้ยินเสียงสุนัขของ "นัท ปง" ที่เลี้ยงไว้ เห่าดังผิดปกติ และเห่าเป็นเวลานาน
เพื่อนบ้าน ยังบอกอีกว่า หลังทราบข่าวก็ตกใจ และส่วนตัวไม่เชื่อว่า "นัท ปง" จะฆ่าตัวตาย เพราะดูเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี
ต่อมา เวลา 7.33 น. "นายต้น" ที่ออกจากบ้านไปทีแรก นั่งรถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านอีกครั้ง อ้างว่าลืมกระเป๋าเงิน และใช้เวลาเข้าไปเอากระเป๋าเงินไม่เกิน 1 นาที ก่อนนั่งรถจักรยานยนต์คันเดิมออกไป
ส่วนประเด็นที่แพทย์ชันสูตร พบปริมาณแอลกอฮอล์ 90 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ในเลือด เป็นอีกสาเหตุให้ชวนคิดว่า "นัท ปง" ได้รับสารไซยาไนด์ ขณะมีสติระหว่างการดื่มสังสรรค์หรือไม่ จากความเห็นของแพทย์ ระบุว่า ความต้านทานแอลกอฮอล์แต่ละคนไม่เท่ากัน