ห้องข่าวภาคเที่ยง - พยานปากสุดท้ายที่สอบปากคำเสร็จเมื่อวานก็คือ "ต้น" ซึ่งเป็น 1 ในคนที่อยู่ในบ้านของ "นัท ปง" ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวช่อง 8 ในวันที่เสียชีวิต โดยมีคำถามที่ชวนให้สงสัยก็คือ ทั้ง 2 คนนี้มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ที่จะรู้เรื่องไซยาไนด์ของ "นัท ปง"
นายต้น เพื่อนสนิท นายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ "นัท ปง" ผู้สื่อข่าว และผู้ประกาศข่าวช่อง 8 ที่เสียชีวิตเป็นปริศนา ภายในบ้านพัก เป็นพยานปากสุดท้ายเมื่อวานนี้ ที่เดินทางกลับหลังสุด หลังให้ปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง ตอนแรกยังไม่ขอพูดอะไร บอกแค่ว่า "รอผลออกก่อน"
จนช่วงหลังเซ็นเอกสารใด ๆ เสร็จสิ้น ก่อนเดินทางกลับได้ให้สัมภาษณ์สรุปสั้น ๆ ว่าได้ให้ข้อมูลทุกอย่างกับตำรวจไปหมดแล้ว ตัวเองเป็นเพื่อนรักกับ "นัท ปง" และนักข่าวช่อง 8 ทุกคนจะรู้จักตนดี ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองยังทำใจไม่ได้
ซึ่งนอกจาก "ต้น" ก็ยังมี "บิ๊ก" อีกคน ที่ถูกสอบปากคำเป็นระยะเวลานานกว่าคนอื่น ๆ ก่อนจะได้เดินทางกลับ ซึ่งเหตุที่ตำรวจต้องสอบปากคำอย่างละเอียด ต้องไปไล่ดูไทม์ไลน์ที่ได้จากภาพวงจรปิด
จะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ที่ "นัท ปง" เดินทางกลับจากทำงานเมื่อช่วง 02.00 น. จนถึงช่วงประมาณ 05.00 น. กว่า ๆ ที่ "โอ" และ "ออ" ทยอยเดินทางกลับ ตอนนั้น "นัท ปง" ยังไม่เสียชีวิต ยังเอาของออกมาทิ้ง ยังเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน
แล้วช่วงสุดท้ายก่อนที่ "นัท ปง" จะถูกพบว่าเสียชีวิต เกิดขึ้นตอนช่วง 06.16-06.20 น. เป็นช่วงที่ "นัท ปง" เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งตอนนั้นยังมี "บิ๊ก" และ "ต้น" อยู่ในบ้าน ทั้ง 2 คนยังได้คุยกัน จึงอนุมานได้ว่าเป็น 2 คนสุดท้ายที่อยู่ในบ้าน
ก่อนที่ใกล้ ๆ 07.00 น. "ต้น" จะเรียกไรเดอร์ออกไปทำงาน แล้วประมาณ 07.30 น. วกกลับไปเอากระเป๋าสตางค์ที่ลืมไว้ แล้วข้ามไปอีก 2 ชั่วโมง ถึงมีรถกู้ภัยมาจอดที่หน้าบ้าน มีภาพ "บิ๊ก" เดินคุยโทรศัพท์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่โทร. แจ้งตำรวจ
ซึ่งผลจากการสอบปากคำพยานทั้ง 5 ปาก ตำรวจบอกว่า ทั้งหมดให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แปลว่าส่วนนี้ไม่น่ามีปัญหา ก็จะเหลือพยานอีก 1 ปากสำคัญ ของคนที่ชื่อย่อ "ก." ซึ่งได้ออกหมายเรียกไปแล้ว
กับอีกคนที่ต้องสอบปากคำก็คือ "แพทย์นิติเวช" ที่รับร่างของ "นัท ปง" มาสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต ตามที่มีข้อมูลว่าพบสารไซยาไนด์ที่ปาก และกระเพาะอาหาร ที่ตอนนี้ร่างของผู้เสียชีวิต อยู่ในการดูแลของ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และยังต้องเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ตามที่ได้นัดหมายกับครอบครัวในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งเชื่อว่าเมื่อดำเนินการครบ ก็จะพอสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้