ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่มีการปะทะกันหนักที่สุด พบว่ามีเสียงปืนใหญ่และอาวุธหนักตลอดแนว ตั้งแต่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ช่องกร่าง และช่องจอม
เป็นเสียงปืนใหญ่และอาวุธหนักที่ทหารไทยและกัมพูชายิงตอบโต้กันอย่างหนัก บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ช่องกร่าง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น.
ก่อนหน้านี้ช่วงเวลา 06.00 น. มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนเล็ก ก่อนจะขยายพื้นที่ปะทะ มีการยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักตอบโต้ไปมา และต่อเนื่องมาจนถึงเวลานี้
จุดนี้ที่บอกว่าหนัก เนื่องจากทางกัมพูชามีการเสริมอาวุธหนักเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ พยายามที่จะเข้ายึดปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ทหารไทยเองก็ต้องการเอาปราสาทตาควายคืน
เวลา 09.00 น. เครื่องบินรบ F-16 ทิ้งระเบิดใกล้กับปราสาทตาควาย เพื่อทำลายฐานทหารกัมพูชาที่อยู่บนเนิน 350 โดยจุดนี้พบว่ากระเช้าที่ทางกัมพูชาสร้างขึ้นมาเพื่อลำเลียงอาวุธและเสบียงไปที่ปราสาทตาควาย และบันไดปูนได้ถูกทำลายราบเป็นหน้ากองแล้ว จุดนี้อยู่ห่างจากปราสาทตาควาย ประมาณ 350 เมตร
ขณะที่ ทหารไทยนำกำลังบุกขึ้นไปตีกองกำลังทหารกัมพูชาอย่างดุเดือด มีเสียงปืนใหญ่และเสียงปืนเล็กดังสลับกันตลอดแนวชายแดนหลายจุด
เสียงปืนที่ดังตลอดเวลา ได้ยินไกลจากชายแดนหลายสิบกิโลเมตร มีการสั่งให้ชาวบ้านที่อยู่เฝ้าพื้นที่ ผู้นำชุมชน และ ชรบ. หลบเข้าหลุมหลบภัย
จุดนี้ประชาชนเกือบทั้งหมด อพยพออกมาแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ชุมชนนอกเขตสู้รบแต่อย่างใด
ระหว่างทางเข้าพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวพบชาวบ้านเร่งอพยพออกมาจากอำเภอพนมดงรัก มุ่งหน้าไปยังจุดปลอดภัย บางคนบอกว่า ยิงกันหนักมากตั้งแต่เช้า บางคนบอกว่า ยังไม่ทันเตรียมตัว ก็มีคำสั่งให้อพยพออกมา ต้องทิ้งงานศพแม่
ขณะที่ โรงพยาบาลปราสาท และ โรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ประกาศปิดให้บริการทุกแผนก ยกเว้นรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สถานการณ์ล่าสุด ยังคงมีการยิงปะทะกัน ทั้งปืนเล็กและปืนใหญ่ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะที่จังหวัดสุรินทร์ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ หรือความเสียหายในชุมชนแต่อย่างใด