ยิงปะทะตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์

View icon 65
วันที่ 8 ธ.ค. 2568 | 11.13 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่มีการปะทะกันหนักที่สุด พบว่ามีเสียงปืนใหญ่และอาวุธหนักตลอดแนว ตั้งแต่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ช่องกร่าง และช่องจอม

เป็นเสียงปืนใหญ่และอาวุธหนักที่ทหารไทยและกัมพูชายิงตอบโต้กันอย่างหนัก บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ช่องกร่าง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น.

ก่อนหน้านี้ช่วงเวลา 06.00 น. มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนเล็ก ก่อนจะขยายพื้นที่ปะทะ มีการยิงปืนใหญ่และอาวุธหนักตอบโต้ไปมา และต่อเนื่องมาจนถึงเวลานี้

จุดนี้ที่บอกว่าหนัก เนื่องจากทางกัมพูชามีการเสริมอาวุธหนักเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ พยายามที่จะเข้ายึดปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ทหารไทยเองก็ต้องการเอาปราสาทตาควายคืน

เวลา 09.00 น. เครื่องบินรบ F-16 ทิ้งระเบิดใกล้กับปราสาทตาควาย เพื่อทำลายฐานทหารกัมพูชาที่อยู่บนเนิน 350 โดยจุดนี้พบว่ากระเช้าที่ทางกัมพูชาสร้างขึ้นมาเพื่อลำเลียงอาวุธและเสบียงไปที่ปราสาทตาควาย และบันไดปูนได้ถูกทำลายราบเป็นหน้ากองแล้ว จุดนี้อยู่ห่างจากปราสาทตาควาย ประมาณ 350 เมตร

ขณะที่ ทหารไทยนำกำลังบุกขึ้นไปตีกองกำลังทหารกัมพูชาอย่างดุเดือด มีเสียงปืนใหญ่และเสียงปืนเล็กดังสลับกันตลอดแนวชายแดนหลายจุด

เสียงปืนที่ดังตลอดเวลา ได้ยินไกลจากชายแดนหลายสิบกิโลเมตร มีการสั่งให้ชาวบ้านที่อยู่เฝ้าพื้นที่ ผู้นำชุมชน และ ชรบ. หลบเข้าหลุมหลบภัย

จุดนี้ประชาชนเกือบทั้งหมด อพยพออกมาแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ชุมชนนอกเขตสู้รบแต่อย่างใด

ระหว่างทางเข้าพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวพบชาวบ้านเร่งอพยพออกมาจากอำเภอพนมดงรัก มุ่งหน้าไปยังจุดปลอดภัย บางคนบอกว่า ยิงกันหนักมากตั้งแต่เช้า บางคนบอกว่า ยังไม่ทันเตรียมตัว ก็มีคำสั่งให้อพยพออกมา ต้องทิ้งงานศพแม่

ขณะที่ โรงพยาบาลปราสาท และ โรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ประกาศปิดให้บริการทุกแผนก ยกเว้นรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สถานการณ์ล่าสุด ยังคงมีการยิงปะทะกัน ทั้งปืนเล็กและปืนใหญ่ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะที่จังหวัดสุรินทร์ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ หรือความเสียหายในชุมชนแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง