ผู้ป่วยโรคหัวใจเสียชีวิต ระหว่างอพยพ จ.บุรีรัมย์

ห้องข่าวภาคเที่ยง - บรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ตึงเครียด ประชาชนทยอยอพยพออกจากบ้านในพื้นที่ชายแดน ส่วนใหญ่เลือกไปยังศูนย์อพยพในอำเภอใกล้เคียง ท่ามกลางความอลหม่าน มีผู้เสียชีวิตระหว่างการอพยพ

ผู้ป่วยโรคหัวใจเสียชีวิต ระหว่างอพยพ จ.บุรีรัมย์
เกิดเหตุสลดระหว่างการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นายประหยัด อายุ 55 ปี ชาวบ้านตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งป่วยมีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ หมดสติขณะกำลังอพยพเข้าไปยังศูนย์พักพิงในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำ CPR แล้วรีบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ระหว่างทางพลเมืองดีช่วยกันปั๊มหัวใจตลอด แต่ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ ครอบครัวต่างโศกเศร้าเสียใจ

ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่าน หลายครอบครัวอพยพเด็ก และผู้สูงอายุ ออกจากพื้นที่อำเภอบ้านกรวด และอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบ้านต่างพากันอพยพไปยังศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ บ้างก็ย้ายไปอยู่ตามบ้านญาติตามอำเภอ และจังหวัดต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย

แม่ลูกอ่อนจากชายแดน อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิง จ.ศรีสะเกษ
สถานการณ์ตึงเครียด บริเวณชายแดนอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านอพยพออกไปอยู่อาศัยพักที่ศูนย์อพยพกันอย่างหนาแน่น อย่างเช่นที่ศูนย์อพยพที่อำเภอกันทรารมย์ เปิดหอประชุมให้ประชาชนเข้าพักอาศัย มีการเปิดโรงครัวทำกับข้าว ทำอาหาร ให้ประชาชนที่อพยพจากบ้าน

1 ในนี้ มีแม่ลูกอ่อน ที่เพิ่งลางานกลับมาคลอดลูกได้เดือนกว่า ๆ เก็บข้าวของเครื่องใช้ออกมาจากบ้าน หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านประกาศให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ รีบออกมาตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ มานอนค้างที่ศูนย์อพยพ เป็นห่วงลูกที่ยังเล็ก อยากให้เหตุการณ์สงบโดยเร็ว สงสารชาวบ้านที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

ชาวบ้านหมู่บ้านภูมิซรอล อพยพแล้วกว่า 90 % จ.ศรีสะเกษ
ที่แยกภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านได้อพยพจากหมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย ได้อพยพออกไปจากหมู่บ้านแล้วมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ 

ขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ สั่งอพยพผู้ป่วยหนัก ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีสะเกษ, โรงพยาบาลน้ำเกลี้ยง และที่อื่น ๆ ที่พอจะรองรับผู้ป่วยหนักได้ ไปดูแลก่อน จนกว่าเหตุการณ์จะสงบลง

ชาวบ้านใกล้ปราสาทชายแดน อพยพ จ.สุรินทร์
ที่จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อพยพออกไปแล้วกว่า 90% ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ผู้นำชุมชนในแต่ละหมู่บ้าน ที่อยู่ติดกับชายแดนใกล้ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย บอกว่า ในขณะนี้แต่ละหมู่บ้านอพยพออกไปแล้วกว่า 90%

คงเหลือชาวบ้านที่ยังต้องอยู่ เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยง และสัตว์ใหญ่ที่นำออกไปด้วยไม่ได้ ขณะนี้ ก็มีชุด ชรบ.ที่ดูแลความปลอดภัยหมู่บ้าน ช่วยเหลือ และดูแลทรัพย์สิน แทนชาวบ้าน

ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
ที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เร่งอพยพออกจากพื้นที่หลังมีเสียงปืนใหญ่ดังติดต่อกัน บริเวณช่องอานม้า ทำให้ชาวบ้านที่ลังเลไม่อพยพตั้งแต่เมื่อวาน พากันเก็บข้าวของขึ้นรถ รีบอพยพออกไปจากตัวอำเภอน้ำยืน

ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถ ได้พากันเข้าไปอยู่ตามหลุมหลบภัย และบังเกอร์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ขณะที่ เพจมิตรเอิร์ธ เปิดชุดข้อมูลอพยพ กรณีเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ชายแดน ได้ประเมินสถานการณ์ภูมิประเทศ ว่าออกห่างจากแนวชายแดน เป็นระยะทางกี่กิโลเมตรแล้ว ออกมาอยู่โซนปลอดภัยแล้วหรือยัง