เตรียมรับศพ “จ่าเพียว” ทหารกล้าสละชีพเพื่อปกป้องชาติ

เตรียมรับศพ “จ่าเพียว” ทหารกล้าสละชีพเพื่อปกป้องชาติ

View icon 159
วันที่ 9 ธ.ค. 2568 | 07.38 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
เตรียมรับศพ  "จ่าเพียว" ทหารกล้าสละชีพเพื่อปกป้องชาติ ครอบครัวสุดเศร้า เผยช่วงเช้าลูกสาวเพิ่งทำบุญตักบาตรหน้าบ้านขอพรพระขอให้พ่อปลอดภัย  แต่พอช่วงสายกลับได้รับข่าวเศร้า

บ่ายวานนี้  (8 ธ.ค. 68) พ.อ.ธานินทร์ ดมหอม เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 6 พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่บ้านของ จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต อายุ 31 ปี หรือ จ่าเพียว ที่บ้านหนองพอก ตำบลหนองพอก อําเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตยของชาติ ด้านช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

พ่อแม่ ภรรยาและญาติ เพื่อนบ้าน เพื่อนทหาร กําลังมีการเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับนําศพที่จะนำกลับมาบ้านเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีในวันนี้ (9 ธ.ค. 68) และยิ่งเศร้าใจเมื่อทราบว่าคืนก่อนเสียชีวิต จ่าเพียวยังโทรศัพท์มาบอกลูกสาว ทั้ง 2 คน อายุ 6 ปี และ อายุ 4 ปี ว่าพ่อไม่ได้กลับเพราะมีการยิงปะทะกันและตื่นเช้าลูกวัยอนุบาลยังไปใส่บาตรกับย่า อธิษฐานว่าขอให้พ่อปลอดภัยกลับมาหาลูกไวๆ จนมาทราบข่าวทีหลังว่าเสียชีวิต

นายสมัย คุณพ่อของจ่าเพียว บอกว่า ลูกรับราชการทหารมา 10 ปีแล้วและไปราชการชายแดนได้ 5-6 เดือนเป็นเสาหลักของครอบครัวพ่อแม่ก็หวังที่จะพึ่งเขาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ทางครอบครัวเสียใจเป็นอย่างมากเพราะว่าขาดคนที่จะมาดูแลเพราะครอบครัวของเราก็เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง พอรู้ข่าวก็รู้สึกช็อคเลยเพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยกะทันหันเราไม่ได้เตรียมใจมาก่อนและไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับตัวเราแต่เราก็ยังติดตามข่าวทุกวันตั้งแต่เกิดสงครามมาแต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์นี้กับลูกของเราแต่เวลาดูข่าวก็จะเป็นห่วงลูกติดตามดูข่าวตลอด ความสูญเสียครั้งนี้ถือว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่และก็เสียใจมากที่ลูกได้มาจากพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุ ยังน้อย แต่ก็ภูมิใจเพราะว่าลูกได้ไปทำเพื่อชาติ เพื่อศักดิ์ศรีของชาติบ้านเมืองของเรา

ก่อนเกิดเหตุไม่ได้คุยกับลูกเลยครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเป็นผลัดลาลูกก็มาก็พากันไปรับประทานอาหารเพื่อพักผ่อนจากนั้นลูกชายก็ได้เดินทางกลับจนกระทั่งเสียชีวิต แล้วก่อนเสียชีวิตก็ไม่มีอะไรสังหรณ์ใจเห็นแต่รูปบ่นแค่ว่าปวดหลังแค่นั้นเองเพราะว่าลูกเคยผ่าตัดเข่าแล้วก็จะมีอาการลามไปถึงหลังพอไปหาหมอกลับมาก็กลับไปชายแดนอีก ลูกไม่เคยบ่นอะไรให้ฟังเลยก็เป็นคนไม่ค่อยพูดอะไรก็จะบ่นแต่ว่าเจ็บเข่าเจ็บหลังเท่านั้นนอกนั้นก็ไม่มีอะไรพ่อก็เคยเตือนบอกว่าไปชายแดนให้ระวังด้วยเพราะว่าเขมรน่ะเป็นพวกที่ไว้ใจไม่ได้ และสุดท้ายก็เสียชีวิตเพราะเขมร

ทางด้านนางอรพรรณ ผู้เป็นแม่ ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเล่าว่า เสียใจต่อสิ่งที่ไม่คาดคิด ว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้. เพราะปกติลูกชายเป็นคนดวงแข็ง ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายกับลูกชาย ที่มาบ้านและเพิ่งกลับไปไม่นาน จนไม่คิดว่าการจากกันครั้งนี้จะไม่ได้เจอกันอีก เสียใจที่สุดคือ เพิ่งพาหลานใส่บาตรพระหน้าบ้าน หลาน 2 คนเป็นผู้หญิง 6 ขวบกับ 4 ขวบ ที่ออกมาร่วมทำบุญทุกเช้า เด็กๆยังขอพรพระช่วยคุ้มครองให้พ่อที่ไปปฎิบัติหน้าที่ปลอดภัย ซึ่งไม่คิดเลยพอสายมากลับได้รับข่าวร้าย เกิดขึ้น ซึ่งเด็กก็ยังคงไม่รู้ว่าพ่อที่เขาภาวนาให้พระคุ้มครองได้จากไปแล้ว และยังไม่รับรู้เลยว่าทหารกำลังจะส่งศพพ่อกลับมาถึงบ้านในวันนี้แล้ว

พ.อ.ธานินทร์ ดมหอม เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 6 บอกว่าตนถือว่าเป็นตัวแทนของกองทัพบกได้เข้ามาเยี่ยมครอบครัวกำลังพลที่สละชีพเพื่อชาติเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินของชาติเราซึ่งมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักที่เขาเสียสละด้วยความกล้าหาญเสียสละเพื่อปกป้องประเทศชาติในนามของกองทัพบกนอกจากจะแสดงความเสียใจและชดเชยอะไรต่างๆแล้วเราก็ต้องติดตามดูแลเขาอย่างดีที่สุดเสมือนกับครอบครัวเดียวกันเราจะไม่ทอดทิ้งกันกองทัพบกก็จะมีการพิจารณาปูนบำเหน็จให้เป็นกรณีพิเศษตลอดจนสวัสดิการต่างๆให้ครบถ้วนทั้งมีการบรรจุตายยากทดแทนและขอตรวจสอบรายละเอียดสำหรับครอบครัวทหารกล้าอีกครั้งหนึ่งและจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง