เช้านี้ที่หมอชิต - บริเวณชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวานทหารไทยได้มีการปะทะกันกับทหารกัมพูชา ในหลายจุด
โดยทหารไทยได้มีการยิงทำลายเสา Anti Drone พื้นที่พระวิหารและห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ ก่อนจะส่งโดรนสอแนม เข้าชี้พิกัด ให้กับเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงโจมตีใส่ฐานกองร้อยกองบัญชาการที่ 1 สังกัดหน่วยสนับสนุนที่ 383 ของกองทัพกัมพูชา
นอกจากนี้ทหารไทยยังยิงปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง หรือ ปรส. โจมตีอนุสาวรีย์ ม้าทอง สัญลักษณ์ของกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกองทัพกัมพูชา ที่พลาญหินแปดก้อน ไปชมภาพขณะทหารไทยยิง ปรส. ใส่ อนุสาวรีย์ม้าทอง และเสียงดีใจของทหารไทย หลังทำลายเป้าหมาย
สำหรับอนุสาวรีย์ ม้าทอง เป็นสัญญลักษณ์ของกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ขณะที่ในส่วนของประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ติดชายแดนด้านเขาพระวิหาร ยังคงไม่อพยพออกจากบ้าน ต่างวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในบังเกอร์ ที่อยู่ใกล้ เพื่อความปลอดภัย โดยมีชุด ชรบ. คอยดูแลชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห่วงทรัพย์สิน และวัวที่เลี้ยงไว้ จึงเหลือบางคนในครอบครัวอยู่เฝ้าทรัพย์สิน ขณะที่บางคนบอกว่ารอดูสถานการณ์ตอนเช้าถึงจะอพยพตามครอบครัวไป แต่ก็มาเกิดเหตุปะทะกันเสียก่อน
ขณะที่ในส่วนของศูนย์พักพิงช่วยคราว มีประชาชนจากอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้ว กว่า 29,000 คน ซึ่งหลังการปะทะเพิ่มขึ้นจากคืนก่อนหน้านี้ถึง 6,000 คน และน่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้เน้นย้ำศูนย์พักพิง ทั้ง 159 แห่ง ใน 18 อำเภอ ต้องมีอาหารน้ำดื่มให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และให้ความสำคัญในการดูแลกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง
