รูปแบบการรบของกัมพูชา ที่เปลี่ยนไป

View icon 25
วันที่ 10 ธ.ค. 2568 | 10.45 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - 3 วันของการรบที่เกิดขึ้น พบว่ารูปแบบการใช้กำลังของฝั่งกัมพูชามีการเปลี่ยนแปลงไปจากการปะทะครั้งแรก

ต้องเท้าความไปถึงการปะทะครั้งแรกที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 5 วัน ครั้งแรกเราจะพบว่าการใช้อาวุธของฝ่ายกัมพูชา จะใช้เครื่องยิงจรวด แบบ BM-21 และปืนใหญ่ เป็นหนัก ยิงเข้าฝั่งไทยเป็นชุด กระสุนจะตกที่หมายพลเรือนเป็นส่วนใหญ่ สร้างความสูญเสีย โดยเฉพาะชาวบ้าน เสียชีวิตไป 13 คน และบาดเจ็บ 31 คน

การรบครั้งนี้ เราเห็นรูปแบบที่เปลี่ยนไป เน้นเฉพาะพื้นที่ทางทหารมากขึ้น ทำให้เพียงแค่ 3 วัน เราสูญเสียทหารไปถึง 5 นาย และบาดเจ็บอีกประมาณ 60 นาย

อะไรที่เปลี่ยนไป อย่างแรกเราพบว่าการใช้อาวุธของกัมพูชา มีการใช้อาวุธที่หลายหลายมากขึ้น ไม่ได้เน้นจรวด BM-21 เหมือนครั้งแรก ครั้งนี้เราเห็นโดรนมากขึ้น คือ โดรนพลีชีพ หลายเป้าหมายของฝั่งไทย ถูกโดรนชนิดนี้โจมตี ฐานที่มั่นและจุดป้องกันของไทยตามแนวชายแดน เพียงแค่เมื่อวานวันที่ 9 วันเดียว กัมพูชาใช้โดรนชนิดนี้โจมตี 33 ลำ

อย่างที่สองที่เราพบในครั้งนี้ คือรูปแบบการโจมตีของจรวด BM-21 แตกต่างจากครั้งแล้ว ที่เราพบคือจะไม่มีการถ่ายคลิปการใช้อาวุธ วันแรก ๆ เราอาจเห็นบ้าง แต่พอวันที่ 2-3 เราจะไม่เห็นคลิปที่ถ่ายจากชาวบ้าน หรือทหารกัมพูชาทำคอนเทนต์แล้ว ทำให้ยากต่อการระบุที่ตั้งอาวุธ

อีกรูปแบบที่เราพบคือ การใช้อาวุธโจมตี การรบครั้งแรกจะพบว่าทั้งปืนใหญ่ และจรวด BM-21 จะยิงถล่มแบบต่อเนื่อง ทำให้ทหารไทยกำหนดเป้าหมายและยิงตอบโต้ทันทีเฉพาะจุด ทำให้อาวุธของกัมพูชาเสียหายอย่างหนัก แต่ครั้งนี้เราพบว่า การยิงของกัมพูชาจะยิงเป็นชุดต่อเนื่องแล้วหยุด คาดว่าที่หยุดคือเป็นรูปแบบยิงแล้วเคลื่อนที่ ไม่ให้เป็นเป้านิ่งเหมือนเดิม ทำให้ครั้งนี้เรายังไม่พบว่าอาวุธยุทโทปกรณ์ของกัมพูชาเสียหายแต่อย่างใด

อย่างที่ทราบกัน เป้าหมายทางทหารของไทยและกัมพูชามีความชัดเจน กัมพูชาต้องการปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่ต่าง ๆ ที่เขาอ้างว่าเป็นของเขาและเขาเสียไป ทั้งช่องอานม้า ช่องบก ช่องจอม โดนตวล สัตตะโสม ภูมะเขือ พลาญยาว เนิน 677 รวม ๆ แล้ว 11 พื้นที่

ส่วนของไทยอย่างที่ทราบเป้าหมายสำคัญคือปราสาทตาควาย พื้นที่โดยรอบปราสาทตาควาย ปราสาทคนา และหลาย ๆ พื้นที่ของจังหวัดสระแก้ว คือบ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน โนนหมากมุ่น การรบจึงมุ่งเป้าไปที่จุดที่ถูกระบุมา ความรุนแรงเป็นที่ทราบได้จากยอดทหารเราที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ

ที่ชัดเจนคือกำลังทหารของกัมพูชา พบว่ามีการถอยล้นออกจากพื้นที่สู้รบที่ไทยต้องการยึด ทั้งจากการปูพรมถล่มด้วยเครื่องบินรบ และปืนใหญ่ที่ยิงเข้าสู้เป้าหมายทางทหารของกัมพูชา

ถ้าคิดอีกมุมหนึ่งเป็นไปได้ว่ากำลังทหารกัมพูชาถอยร่นออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้ทหารไทยเข้าไปยึดที่มั่น แล้วใช้อาวุธระยะไกลยิงถล่มจุดที่ไทยยึด อย่างเช่นที่เนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย และที่ปราสาทคนา ทำให้ทหารไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บใน 2 จุดนี้