อาลัยทหารกล้า พลีชีพเพื่อชาติ จ.อุบลราชธานี

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ช่วงเย็นวันนี้ มีพิธีรับศพและพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ทหาร 4 นาย ที่พลีชีพในสมรภูมิรบ ชายแดนไทย-กัมพูชา ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัวทหารกล้า

อาลัยทหารกล้า พลีชีพเพื่อชาติ จ.อุบลราชธานี
พิธีบำเพ็ญกุศล จัดขึ้นที่พุทธสถาน มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22  พร้อมทหารกองเกียรติยศ ร่วมกันส่งร่าง 2 ทหารกล้า

ได้แก่ สิบเอก ชวกร เดชขุนทด สังกัดกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ พลีชีพในพื้นที่พระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ

และ จ่าสิบโท จิระวัฒน์ มุ่งกลาง สังกัด กองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ วีรบุรุษ จากช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

ร่างทหารทั้ง 2 นาย ได้รับการเคลื่อนย้าย ส่งกลับภูมิลำเนาด้วยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากกองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี มายังท่าอากาศยาน ดอนเมือง กรุงเทพฯ

ครอบครัวของจ่าสิบโท จิระวัฒน์ มุ่งกลาง หรือ จ่าโอม ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เตรียมการรับศพลูกชายเย็นนี้ที่วัดวังน้ำเย็น ซึ่งจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีวางพวงมาลาพระราชทานอย่างสมเกียรติทหารกล้า

พ่อของจ่าโอม กล่าวว่า เสียใจมาก เพราะลูกชายเป็นเสาหลักดูแลทุกคนในครอบครัว ทั้งแม่ ลุงป้า ยายและหลาน แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายเกิดเป็นชายชาติทหาร เป็นนักรบของแผ่นดิน ที่พลีชีพในสนามรบ

พิธีรับศพทหารกล้า กลับสู่บ้านเกิด จ.สระบุรี
ขณะที่ วัดหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี กองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ หน่วยงานฝ่ายปกครอง จิตอาสา ผู้นำท้องถิ่น และพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จัดเตรียมพิธีการรับร่าง สิบเอก ชวกร เดชขุนทด ทหารกล้าที่พลีชีพ ในพื้นที่พระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ กลับบ้านเกิด

พ่อเล่าว่า ลูกชายรักในอาชีพทหาร เข้ารับคัดเลือกเป็นทหารเกณฑ์และสอบบรรจุเข้ารับราชการทหาร เรื่องราวร้าย ๆ ที่ลูกชายเสียชีวิตในสมรภูมิรบ อยากให้เป็นเพียงแค่ฝันไป

กองทหารเกียรติยศ ตั้งแถวรอรับขบวนศพ สิบเอก ชวกร อย่างสมเกียรติ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และตัวแทนกองทัพบก เข้าร่วมในพิธีในช่วงเย็นวันนี้ จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีวางพวงมาลาพระราชทาน ตามลำดับ และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ 3 วัน ก่อนทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันเสาร์นี้ (13 ธ.ค.)

พิธีรับศพ พลทหาร วายุ กลับบ้าน จ.ปทุมธานี
ส่วนที่วัดสว่างภพ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จัดพิธีรับศพ พลทหาร วายุ ขวัญเสือ อายุ 21 ปี สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 พัน.3 รอ.) ทหารกล้า ที่ได้สละชีวิตปกป้องอธิปไตยจากเหตุการณ์ปะทะที่ปราสาทตาควาย ชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่จังหวัดสุรินทร์

เป็นการนำร่าง กลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา จังหวัดปทุมธานี ที่ได้จัดพิธีการรับศพทหารกล้ากลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความอาลัยรักของพ่อแม่และญาติมิตร

พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพทหารกล้า จ.ศรีสะเกษ
ส่วนพิธีรับศพของ พลทหาร เทิดศักดิ์ ศรีลาชัย สังกัดกองพันทหารราบที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เสียชีวิตจากการถูกสะเก็ดระเบิด ในพื้นที่ปราสาทคณา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

วันนี้ มีพิธีส่งขบวนศพ ไปยังวัดกลาง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเกิดของ พลทหาร เทิดศักดิ์ และจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พิธีวางพวงมาลาพระราชทาน และบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ

ขณะที่ ธ.ก.ส. ร่วมสดุดี วีรชนจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้เงินต้น พร้อมดอกเบี้ยทุกสัญญาเงินกู้ ให้ จ่าสิบเอก ศตวรรษ สุจริต หรือจ่าเพียว วีรบุรุษ ที่พลีชีพในสมรภูมิรบ ที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ครอบครัวทหารกล้า

นอกจากนั้นเพจกองทัพภาคที่ 2 ยังได้มีการโพสต์ว่า เพื่อเป็นการสดุดีวีรบุรุษสัตตะโสม บรรจุญาติของทหารกล้าเข้ารับราชการทดแทนจากเหตุปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากห้วงเวลา 24 - 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา จ่าสิบเอกธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ สังกัด กองพันหารปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6 ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการณ์หน้า ประจำจุดตรวจการณ์สัตตะโสมเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยเหตุนี้กองทัพภาคที่ 2 จึงได้บรรจุนางสาวรจรินทร์  สิงห์ศร(ภรรยา) เข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน (อัตรา สิบเอก)