ข่าวภาคค่ำ - สถานการณ์ชายแดนวันนี้ ทางฝ่าย "กัมพูชา" ยังคงเปิดฉากยิงจรวดถล่มไทยตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่เช้ามืด โดยระดมยิงใส่อำเภอพนมดงรักกว่า 50 ลูก และยังยิงใส่ภูพื้นที่มะเขือด้วย
นี่เป็นคลิปขณะที่ทหารกัมพูชาใช้บ้านเรือนของชาวกัมพูชา ในจังหวัดอุดรมีชัย เป็นสถานที่ปฏิบัติการทางทหาร เพื่อยิงระบบจรวดหลายลำกล้อง Type 90B ขนาด 122 มิลลิเมตรไปยังภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ
ซึ่งวันนี้ ทหารกัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงใส่ไทยก่อน ตั้งแต่เช้ามืด เวลา 05.20 น. ตลอดแนวชายแดน โดยไทยก็ตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง ส่วนที่บริเวณเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ก็มีการยิงปะทะกันระยะ ๆ
จนช่วงบ่ายวันนี้ กองทัพภาคที่ 2 ทำลายเครนที่อยู่บริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารของฝั่งกัมพูชาได้ หลังตรวจพบว่า ใช้เป็นที่ติดตั้งแอนตี้โดรน รวมทั้งติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดด้วยสัญญาณเรดาร์บนพื้นที่เขาพระวิหาร และยังใช้กล้องวงจรปิดดูการปฏิบัติของกำลังฝ่ายไทยในพื้นที่รอบเขาพระวิหารด้วย
ขณะที่ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ทหารกัมพูชา ได้ระดมยิงจรวด BM-21 รวมกว่า 50 ลูกเข้าในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า
ตรวจสอบพบว่า มีกระสุน BM-21 ตกบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลพนมดงรัก 5 ลูก หลังเกิดเหตุหน่วยทหารเร่งอพยพผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และประชาชนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยแล้ว
กองทัพบกจึงประณามการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือนของกัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดอธิปไตยของไทย และขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 สรุปการใช้อาวุธของฝ่ายกัมพูชา ตั้งแต่ 7-10 ธันวาคม ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธ BM-21 79 ครั้ง, ลูกจรวด 3,160 นัด, ใช้ปืนใหญ่ 122 นัด และใช้โดรนทิ้งระเบิด (FPV) ต่อ ฝ่ายไทย 63 ครั้ง 125 ลำ
ส่วนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 กว่า 20 นัด ลงในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว บริเวณไร่นาของประชาชน ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต
ขณะที่ในวันนี้ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ลงนามในประกาศเรื่อง ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน
ภายในระหว่างระยะเวลา 19.00-05.00 น. ในพื้นที่ 4 อําเภอ ตามแนวชายแดน ได้แก่ อําเภอตาพระยา อําเภอโคกสูง อําเภออรัญประเทศ และอําเภอคลองหาด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วนตัวเลขการเสียชีวิตของทหารไทย ได้สูญเสียทหารกล้าเพิ่มอีก 2 นาย คือ พลทหาร เทิดศักดิ์ ศรีลาชัย สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 และจ่าสิบเอก อนันดา อุดร สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16
ทำให้ขณะนี้ล่าสุด มีทหารกล้าที่สละชีพเพื่อชาติรวมแล้ว 6 นาย บาดเจ็บเกือบ 100 นาย
ส่วนตัวเลขตำรวจตระเวนชายแดน สังกัด กองกำกับการ ตชด.22 ที่ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 20 นาย ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานี และสถานีอนามัย จังหวัดศรีสะเกษ 15 นาย และมี 5 นาย ที่กลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กัมพูชายังไม่ได้ติดต่อประสาน เพื่อขอเจรจา
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ที่ปรึกษาของ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสัญญาณว่า อยากพูดคุยเจรจานั้น นายอนุทิน บอกว่า มีช่องทางดำเนินการอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุย
นายอนุทิน ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่หากติดต่อมา ก็ต้องพูดคุย พร้อมอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างคู่กรณี 2 ประเทศ
แต่หากจะพูดคุยกันในระดับผู้นำ ต้องติดต่อผ่านช่องทาง ทางการทูตแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งตนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะต้องเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาร่วมด้วย ต้องทำทุกอย่างตรงไปตรงมา
ด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิเสธกระแสข่าวว่า ไทยยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของผู้นำมาเลเซีย
โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง นายกฯ ไม่ได้ตอบรับข้อเสนอใด ๆ จากมาเลเซีย
และยืนยันว่า จนถึงตอนนี้สหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้ติดต่อมา แต่หากต้องการให้เจรจาคิดว่า น่าจะต้องเป็นคำตอบเดียวกับที่ให้กับผู้นำมาเลเซีย คือ ฝ่ายไทยยังไม่พร้อม
ขณะที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ยังแจ้งเตือนให้คนไทยที่พำนักอยู่ในกัมพูชาราว 1,200 คนว่า หากไม่มีเหตุจำเป็น ให้เดินทางออกจากกัมพูชาเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับคนไทย หากไม่จำเป็นให้งดการเดินทางไปกัมพูชาไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย