วานนี้ เวลา 19.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย ทรงเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พุทธศักราช 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด "ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง หรือ Ever Forwardไ มีประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก 11 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขันฯ
ในการนี้ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ "ธ สถิตในดวงใจ ปวงชนตลอดไป" เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อวงการกีฬาของประเทศไทย จากนั้น ทุกคนในสนามยืนสงบนิ่ง เพื่อแสดงความอาลัยฯ แล้วทอดพระเนตรพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่เน้นการสร้างมาตรฐานใหม่ ด้วยศักยภาพของคนไทย และคนรุ่นใหม่ มีความร่วมสมัยระดับโลก แต่ยังคงเสน่ห์ความเป็นไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมเข้ากับเทคโนโลยีการแสดงที่ทันสมัยสร้างความตื่นตาตื่นใจ
เริ่มจากการแสดงร่ายรำประกอบสื่อผสม แสง สี เสียง และการแสดงกีฬาทางน้ำบนสายน้ำชุด "WE ARE ONE-WE ARE CONNECTED BY THE SEA-สายน้ำหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว" โดยนักแสดงระบำใต้น้า อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ปลุกผืนน้ำให้มีชีวิตด้วยการเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย และทรงพลัง ตามมาด้วยเจ็ตสกีผาดโผน สื่อถึงความกล้าและการไล่ล่าความฝันอย่างไม่หวาดหวั่น ถ่ายทอดความเร็ว ความแม่นยำ และวินัยบนผิวน้ำ, การแสดงศิลปะมวยไทยประกอบสื่อผสม แสง สี เสียง ชุด "ONE SPiRIT-จิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่ง" โดยกลุ่มนักแสดงศิลปะการต่อสู้จากภูมิภาคอาเซียนแต่ละแขนง ด้วยท่วงท่าที่หนักแน่น แม่นยำ และหยั่งรากจากอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ก่อนประสานแต่ละท่วงท่าเป็นจังหวะเดียว โดยร้อยเอก สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ และการแสดงเบ่งบานของดอกไม้ที่เป็นตัวแทน จาก 11 ประเทศ ประกอบบทเพลงของศิลปินนักร้อง และสื่อผสม แสง สี เสียง ชุด "BLOOMING OF ONE VICTORY-มิตรภาพ คือชัยชนะ" โดยแบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวดล สมาชิกชาวไทยหนึ่งเดียวจากวง K-POP ระดับโลก GOT7
จากนั้น ขบวนพาเหรดนักกีฬาเดินเข้าสู่สนาม เริ่มจากธงสัญลักษณ์สมาพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ธงชาติไทย และธงซีเกมส์ พร้อมด้วยมาสคอทเดอะสาน รูปทรงเรขาคณิต ที่สื่อถึงอัตลักษณ์การผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเป็นไทยดั้งเดิม และขบวนนักกีฬา จาก 11 ประเทศ เริ่มจากบรูไน, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ติมอร์-เลสเต, เวียดนาม และปิดท้ายด้วยประเทศไทย
โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในฐานะทรงเป็นนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ทรงพระดำเนินนำคณะนักกีฬาทีมชาติไทย โดยมีกุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน เหรียญเงินโอลิมปิก 2024 และจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักกีฬามวยสากลหญิง เหรียญทองแดงโอลิมปิก ปารีสเกมส์ ทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์นำทัพนักกีฬาไทยเดินเข้าสู่สนาม
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
เมื่อเจ้าหน้าที่เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา และเชิญธงสัญลักษณ์สมาพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมธงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ขึ้นสู่ยอดเสาแล้ว ตัวแทนนักกีฬา และตัวแทนคณะกรรมการตัดสิน นำกล่าวคำปฏิญาณเพื่อการแข่งขันที่เที่ยงตรง แม่นยำ และเต็มศักยภาพของนักกีฬา และเจ้าหน้าที่
และไฮไลต์สำคัญอีกอย่างของซีเกมส์ คือ การจุดไฟพระฤกษ์ โดยครั้งนี้สร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ คำนึงถึงความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสะท้อนนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์แห่งยุคสมัยใหม่ โดย "กระถางคบเพลิงใหญ่แบบดิจิทัล" สว่างไสวส่งพลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เกิดเป็นลำแสงอันเจิดจ้า ก่อนปิดท้ายด้วยโดรนโชว์ ที่ขยายความหมายของเปลวไฟให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวของทั้ง 11 ชาติ
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้ โดยมีนักกีฬาจาก 11 ประเทศ กว่า 8,000 คนเข้าร่วมการแข่งขันชิงชัยใน 50 ชนิดกีฬา รวมกว่า 500 เหรียญทอง โดยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในฐานะทรงเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ทรงลงแข่งขันกีฬาเรือใบ ประเภทคีลโบ๊ท เอสเอสแอล 47 ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคมนี้ ณ โอเชียน มารีนา รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งการแข่งขันรายการนี้ มีนักกีฬาจาก 5 ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เมียนมา และไทย เข้าร่วมการแข่งขันฯ
ทั้งนี้ การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันฯ กว่า 1,500 คน และคาดหวังว่าจะเป็นเจ้าเหรียญทองอีกครั้ง หลังจากซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อปี 2550 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และคว้าเหรียญทองไปได้ 183 เหรียญ