ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากเมื่อวาน การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญล่ม เมื่อพรรคประชาชนแพ้โหวต โดยมีพรรคภูมิใจไทย ร่วมโหวตคงอำนาจ สว.แก้รัฐธรรมนูญ จนทำให้พรรคประชาชนเตรียมยืนอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนสุดท้ายนายอนุทินตัดสินใจยื่นยุบสภา ตัดหน้าพรรคประชาชน
วันนี้ (12 ธ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีใจความโดยสรุปว่า การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ แต่รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางออกที่เหมาะสมคือการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเร็ว
ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่การตัดสินใจยุบสภาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เกิดมาจากในการประชุมรัฐสภา เมื่อวานนี้ มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256/28
มติที่ประชุมรัฐสภา ไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมาก ในการใช้เสียงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ใช้เสียง สว.1 ใน 3 มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีเสียง สส.จากพรรคภูมิใจไทย ร่วมโหวตเห็นชอบ พลิกมติ กมธ.เสียงข้างมาก ทำให้ สส.พรรคประชาชน และฝ่ายค้านแพ้โหวต พรรคประชาชนจึงขอถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สรุปคือ การแก้รัฐธรรมนูญล่ม
วันนี้ (12 ธ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีใจความโดยสรุปว่า การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ แต่รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางออกที่เหมาะสมคือการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเร็ว
ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่การตัดสินใจยุบสภาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เกิดมาจากในการประชุมรัฐสภา เมื่อวานนี้ มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256/28
มติที่ประชุมรัฐสภา ไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมาก ในการใช้เสียงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ใช้เสียง สว.1 ใน 3 มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีเสียง สส.จากพรรคภูมิใจไทย ร่วมโหวตเห็นชอบ พลิกมติ กมธ.เสียงข้างมาก ทำให้ สส.พรรคประชาชน และฝ่ายค้านแพ้โหวต พรรคประชาชนจึงขอถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สรุปคือ การแก้รัฐธรรมนูญล่ม
จากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน จึงเรียกร้องให้นายอนุทิน ยุบสภา
ภายหลังลงมติ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.พรรคภูมิใจไทย เดินเข้าไปพูดคุยกับนายณัฐพงษ์ และ สส.พรรคประชาชน คาดว่า เข้าไปชี้แจงเหตุผลในการพลิกมติโหวตของพรรคภูมิใจไทย
ช่วงดึกมีรายงานว่า แกนนำพรรคประชาชนได้ตามตัว สส.ให้ไปร่วมลงชื่อเพื่อเสนอญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 แบบลงมติ ทันที
แต่ไม่ทันแล้ว เพราะเมื่อคืนนี้เวลา 22.05 น. นายอนุทินได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ผมขอคืนอำนาจกลับไปยังพี่น้องประชาชนครับ"
มีรายงานว่า นายอนุทินยื่นยุบสภาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยชี้แจงให้พรรคประชาชนทราบว่า หากลงมติให้ตัดอำนาจ สว. ในวาระ 3 สว.จะไม่เห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องล้มเหลว จึงขอให้คงอำนาจ สว.ไว้ก่อน
แต่พรรคประชาชนไม่ยอม และแจ้งว่า หากโหวตแพ้จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันที ทำให้นายอนุทินต้องตัดสินใจยุบสภา เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
เวลา 23.15 น. นายณัฐพงษ์แถลงหลังจบการประชุมรัฐสภาว่า จุดยืน คือ เราไม่อาจยอมรับ สว. 1 ใน 3 ในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ หากภูมิใจไทยต้องการผลักดันรัฐธรรมนูญใหม่จริง อย่างน้อย ๆ ภูมิใจไทยควรลงตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ให้ผ่านวาระ 2 ไปก่อน
อยากจะส่งคำเรียกร้องไปยังรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยว่า หากยังเหลือความจริงใจอยู่บ้าง ในการเดินตามกรอบ MOA การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ คือ ครม. รักษาการต้องเปิดทางให้จัดทำประชามติคำถามแรก พร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า
เวลา 24.00 น. เที่ยงคืน พรรคประชาชนได้โพสต์แถลงการณ์ว่า พรรคภูมิใจไทยควรดำเนินภารกิจสุดท้าย คือ ให้รัฐบาลรักษาการมีมติ ครม. เพื่อกำหนดวันออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่คำถามที่ 1 เป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 แล้วพบกันที่คูหาเลือกตั้ง
โดยมีนายอนุทินเข้ามาคอมเมนต์ว่า ตามนั้น
ไทม์ไลน์การเลือกตั้ง หลังมียุบสภา วันที่ 12 ธันวาคม 2568 กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้ง ภายใน 5 วัน คือภายใน 17 ธันวาคม 2568 ต้องกำหนดให้เริ่มรับสมัคร สส.เขต ไม่เกิน 15 วัน (นับแต่วัน พ.ร.ฎ.ใช้บังคับ) คือ ภายใน 27 ธันวาคม 2568 และตามกรอบต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน (นับแต่วัน พ.ร.ฎ.ใช้บังคับ) คาดว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 หรือ 8 กุมภาพันธ์ 2569
