รับร่าง “พลทหารธนรัตน์ จันทร์ประทัด” ทหารกล้าพลีชีพเพื่อชาติกลับบ้านเกิดที่ จ.หนองคาย น้องสาวบรรจงจูบลาพี่ชาย ขณะที่ญาติร่ำไห้ระงม
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 พล.ต. ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ได้เปิดห้องรับรองตึกกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 จ.อุดรธานี รับรองญาติ พลทหารธนรัตน์ จันทร์ประทัด หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี สังกัดกองกำลังรบกองทัพภาคที่ 1 ประจำกองพลทหารที่ 11 ตำแหน่งพลปืนเล็ก กรมทหารราบที่ 112 กองพันทหารราบที่ 3 (ร. 112 พัน 3 )
ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะบริเวณสมรภูมิบึงตะกวน-บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จากกระสุนปืน ค.ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นกำลังพลรายที่ 7 ที่พลีชีพจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดหนองคาย แม้จะอายุยังน้อย และเข้ารับใช้ชาติได้เพียง 1 ปี แต่ได้แสดงความมุ่งมั่นขออาสาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง ยืนยัดรักษาฐานบึงตะกวนจนถึงวินาทีสุดท้าย
พล.ต.ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพลทหารธนารัตน์ ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว ที่ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งมีผู้เป็นพ่อ ปู่ ย่า และน้องสาววัย 9 ขวบ พร้อมด้วยญาติ ที่เดินทางมารับร่างพลทหาธนรัตน์ เพื่อกลับไปบ้านเกิดที่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย พร้อมกับแจ้งสิทธิและการช่วยเหลือจากกองทัพบกที่พ่อแม่และครอบครัวจะได้รับ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
โดยนายสมภพ จันทร์ประทัด อายุ 48 ปี พ่อของพลทหารธนรัตน์ เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นโสด ยังไม่มีครอบครัว ตนแยกทางกับแม่น้องปลื้มตั้งแต่เด็ก ลูกจึงอยู่กับปู่ ลูกชายเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน รักเพื่อน มีเพื่อนมาก ชอบอิสระเสรี ลูกเข้ารับการเกณฑ์ทหารแล้วจับใบแดงได้ จากนั้น 1 ปีลูกก็เดินทางไป จ.สระแก้ว ก่อนไปชายแดน ลูกได้โทรมาบอกตนว่า หน่วยต้องไปที่ จ.สระแก้ว พูดแค่นี้ไม่ได้บอกอะไรมาก ตนได้บอกลูกว่าให้ระวังตัวด้วย เพราะเขมรไว้ใจไม่ได้ จะไปไหนมาไหนให้มีเพื่อนไปด้วย เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยกัน คุยกันได้ประมาณ 1-2 วัน ลูกก็จากไป ตอนนี้ไม่สามารถฝากอะไรถึงลูกได้เพราะมันจุกที่อก ส่วนความหวังของลูกอยากให้ครอบครัวดีขึ้น ที่ลูกพลีชีพเพื่อชาติ ในฐานะพ่อก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูก ที่ลูกเกิดมาเป็นทหารและพลีชีพเพื่อชาติ
“อยากฝากถึงทหารแนวหน้าว่า การรบอยากให้ยุติลงโดยเร็ว ฝากรัฐบาลกำหราบเขมรจนถึงที่สุดจึงหยุดได้ ถ้าเป็นลักษณะแบบนี้อย่างไรก็ไม่หยุด ก็จะต้องมีครั้งที่ 2 และที่ 3 ต่อไป และจะมีการสูญเสียแบบนี้อีก”
นายวิรัตน์ จันทร์ประทัด อายุ 74 ปี ปู่น้องปลื้ม ได้แต่ร้องไห้เสียใจ พร้อมกับเล่าว่า ตนเลี้ยงน้องปลื้มมาตั้งแต่เกิดเลย เขาจะอยู่กับปู่ตลอด ปู่ไปไหนก็ไปกับปู่ตลอด ไปเป็นทหารได้ 1 ปี กับ 10 กว่าวัน ไม่ได้กลับบ้านเลย ตนมีหลานชายคนเดียว ตั้งแต่ไปรับราชการทหาร ยังไม่ได้กลับมาหาปู่เลย 2-3 วันก่อนเสียชีวิต หลานได้โทรมาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง รู้สึกภูมิใจในตัวหลาน ส่วนภูมิใจก็ภูมิใจ แต่ก็สงสาร เพราะหลานบอกว่าอยู่ชายแดนมันทรมาน เขาบอกว่า 6 วันไม่ได้อาบน้ำเลย ไม่รู้ว่าไปอยู่อย่างไร และบอกว่าขุดหลุมอยู่ มีคนมาขุดหลุมให้ และเอาผ้าใบกางเต็นท์ “ถ้าหลานรับรู้ได้ จะบอกว่า ให้ทำเหมือนปู่ เดินไปเหมือนปู่ แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็พออยู่ได้”
ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ได้พาญาติได้ออกจากห้องรับรอง มทบ. 24 เพื่อไปรอรับร่างพลทหารธนรัตน์ ที่กองบิน 23 ซึ่ง น้องชมพู น้องสาวของพลทหารธนรัตน์ ได้เดินถือรูปถ่ายของพี่ชายออกมาที่หน้าตึกกองบัญชาการ มทบ. 24 ก่อนจะขึ้นรถตู้ สภ.เฝ้าไร่ ซึ่งพาญาติมารับร่างวีระบุรุษบึงตะกวน น้องชมพู่ได้หอมแก้มรูปถ่ายพี่ชาย พร้อมกับสะอื้นร่ำไห้บอกพี่ชายว่า “กลับบ้านเรานะ หนูอยากเป็นทหารเหมือนพี่” สร้างความสะเทือนใจให้กับญาติและผู้พบเห็น
จากนั้นเวลา 12.30 น. เครื่องบินกองทัพบก ได้นำร่างพลทหารธนรัตน์ ซึ่งอยู่ในโลงคลุมด้วยธงชาติไทย จาก จ.สระแก้ว เดินทางมาถึงกองบิน 23 จ.อุดรธานี มี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี พล.ต. ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และญาติ มารับร่างท่ามกลางความโศกเศร้า นำขึ้นรถฮัมวี มทบ.24 เพื่อเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านวังชมพู หมู่ 8 ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย บ้านเกิดต่อไป