พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พลทหาร ชาญชัย ทหารกล้าพลีชีพเพื่อชาติ ปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ เป็นร้อยตรี
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปวางที่หน้าหีบศพ พลทหารชาญชัย ผดุงโชค อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ณ วัดโพธิ์ชัยโคกใหญ่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
โอกาสนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม และโปรดให้ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เชิญพวงมาลาพระราชทาน และพวงมาลาประทาน วางที่หน้าหีบศพด้วย
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ญาติของ พลทหารชาญชัย ผดุงโชค ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานน้ำหลวง และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษด้วย
จากนั้นผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้เป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมฟังสวดอภิธรรม ทั้งนี้ มี พ.อ.ยุทธนา มหาวัน รอง ผบ.มทบ.23 (1) ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมด้วย ทั้งนี้ พลทหารชาญชัย เคยมีครอบครัว ภรรยาชื่อ น.ส.อริษา คำแดง มีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ ด.ญ.ชาลิสา คำแดง อายุ 4 ปี ปัจจุบันพลฯชาญชัยฯอยู่กับมารดา ชื่อ น.ส.นิภาพัน ภูเนตร อายุ 50 ปี
ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนการให้ความช่วยเหลือการพลีชีพของพลทหารชาญชัย จะได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ เป็นร้อยตรี และ 9 ชั้น เงินเดือน บรรจุทายาททดแทน 1 คน เหรียญพิเศษ บำนาญพิเศษ เงินช่วยเหลือจากสำนักนายกรัฐมนตรี (กองทุนและงบกลาง) เงินบำรุงขวัญ (กองทัพบก/กองทัพภาคที่ 1)เงินพระราชทาน เงินประกันชีวิต (กองทัพบก/กองทัพภาคที่ 1/หน่วยที่สังกัด) เงินช่วยเหลือค่าจัดการศพ เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เงินช่วยเหลือจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ เงินช่วยเหลือ 3 เท่า ของเงินเดือน เงินบริจาคต่างๆ เงินสวัสดิการกองกำลัง และอื่นๆ
ด้าน น.ส.นิภาพัน มารดาของพลทหารชาญชัย กล่าวว่า แม้ตนและครอบครัว พร้อมญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านจะรู้สึกเสียใจในการจากไปของลูกชายที่ไม่มีวันกลับ แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่ภาคภูมิใจที่ลูกชายสละชีพเพื่อชาติ ปฏิบัติหน้าที่อย่ากล้าหาญชาญชัยมาโดยตลอด ซึ่งงานวันนี้ครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างหาสุดมิได้ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ ที่พระราชทานความช่วยเหลือทุกอย่าง ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัว นอกจากนี้ยังขอขอบคุณไปยังทุกภาคส่วน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานทหาร นายอำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน ญาติสนิทมิตรสหายทุกคน ที่มาให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือในการจัดงานศพลูกชายในครั้งนี้
สำหรับกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศล วันที่ 12-14 ธ.ค.68 ตั้งศพบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมที่วัดโพธิ์ชัยโคกใหญ่ และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68 อย่างสมเกียรติ เพื่อเป็นการไว้อาลัย และยกย่องในความกล้าหาญ ความเสียสละ ซึ่งเป็นแบบอย่างของการทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชน