เช้านี้ที่หมอชิต - กองทัพจัดพิธีส่งร่าง 4 ทหาร กล้าสละชีพปกป้องเนิน 677 ช่องอานม้า กลับให้ครอบครัวสมเกียรติ วานนี้ (14 ธ.ค.) มีข่าวเศร้า แพทย์สนามรบ ถูกสะเก็ดระเบิด เสียชีวิตเป็นรายที่ 16
สิบเอก อภิสิทธิ์ บุนนาค หรือ หมอตี๋ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 นายสิบพยาบาล ประจำสนามรบ ถูกสะเก็ด BM-21 ของกัมพูชา ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในบังเกอร์ พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ธันวาคม เป็นทหารนายที่ 16 ที่เสียชีวิตในการยิงปะทะรอบที่ 2
นางสาวระวีวรรณ บุนนาค อายุ 44 ปี ภรรยา เดินทางมาที่บ้านเกิดของสามี ที่จังหวัดร้อยเอ็ด พูดคุยกับแม่สามี ขอนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านที่เธออยู่กับสามีและลูก ๆ เธอเปิดเผยทั้งน้ำตา เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ก่อนจะมีการยิงปะทะ ได้พาลูกสาว อายุ 8 ขวบ และลูกชาย อายุ 6 ขวบ เดินทางไปหา สามีปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ชายแดนไปกราบวันพ่อ วันนั้นได้กินกาแฟ ลูกทั้ง 2 คน ก็ไปนอนตักพ่อหยอกล้อกันตามปกติ
สามีรักลูกทั้ง 2 คน มาก อยากให้ลูกชายเป็นทหาร สามี จะพูดให้ลูกฟังตลอด "พ่อภูมิใจมากที่เกิดมาเป็นทหารปฏิบัติหน้าที่รักษาดินแดน ถือว่าเป็นเกียรติของการเกิดมาเป็นชายชาติทหาร" จนเมื่อ 09.20 น. สามี ก็ยังส่งไลน์มาหา บอกว่า พ่อปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง และยังถามว่าเธอกินข้าวหรือยัง แต่หลังไม่นานเธอก็ได้รับแจ้งว่า สามีเสียชีวิต
ภรรยาของหมอตี๋ ยังฝากตามหา เจ้าไทเกอร์ สุนัขที่สามีเลี้ยงเอาไว้นาน 8 เดือน ฐานปฏบิบัติการ ทุกครั้งกลับมาบ้าน จะพามันมาด้วยทุกครั้ง เมื่อสามีจากไปอยากได้เจ้าไทเกอร์ มาอุปการะ เพราะสามีรักสุนัขตัวนี้มาก
ที่พุทธสถานมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ทหารกองเกียรติยศ ข้าราชการ ประกอบพิธีเคารพศพ ถวายผ้าไตรบังสกุลหน้าหีบศพ จ่าสิบเอก ดำรงค์เกียรติ์ แก้งกระจ่าง, จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ รัตนบุรี และ พลทหาร กฤตฏิกร สร้อยระย้า
ขณะเดียวกัน ดร.มุสตาฟา กสิวรรณ รองฝ่ายในประเทศ สภาเครือข่ายสำนักจุฬาราชมนตรี พร้อมคณะ ได้ทำพิธีดูอาร์ หน้าหีบศพ พลทหาร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ วีรบุรุษสละชีพปกป้องเนิน 677 ช่องอานม้า จากนั้นนำเคลื่อนร่าง ทหารกล้าทั้ง 4 นาย ส่งกลับไปยังภูมิลำเนา
ร่างของ จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ ทหารกองเกียรติยศ ข้าราชการ และประชาชน ตั้งแถวรอรับอย่างสมเกียรติ ที่วัดหลวงพ่อเขียว ตำบลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะลูกสาวของ จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ นั่งเช็ดรูปตั้งหน้าศพ หอมแก้มพ่อผ่านรูป ด้วยความคิดถึง และลูกสาว ยังเขียนข้อความ ขอให้พ่อหลับให้สบาย ให้พ่อสู้ ๆ พร้อมบอกว่า หนูกับแม่เป็นห่วง สำหรับศพของ จ่าสิบเอก ดำรงเกียรติ จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
ส่วนร่างของ จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ ถูกลำเลียงด้วยเครื่องบินกองทัพบก ไปส่งมอบให้ครอบครัว ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ โดยมีทหารกองเกียรติยศ ต้อนรับอย่างสมเกียรติ จากนั้นก็เคลื่อนร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดถ้ำโกบ ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
นางสาวมลฑาทิพย์ วิหก ภรรยาของ จ่าสิบเอก ทวีรัตน์ บอกว่าโทร.คุยกันทุกวัน สามีย้ำตลอดว่า พี่ปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง วันเกิดเหตุ (13 ธ.ค.) 10.00 น. ยังคุยกันปกติ ไม่มีลางสังหรณ์ใด ๆ จนได้ข่าวทางทีวี รู้สึกช็อก ก่อนสามีจะไปประจำการที่ชายแดน สัญญาว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาอยู่กับ เธอและลูก เมื่อสามีจากไป สัญญาจะดูแล ลูกให้ดีที่สุด ฝากให้กองทัพ สางปัญหาชายแดนให้จบโดยเร็วอย่าให้มีใครสูญเสียอีก
ส่วร่างของ พลทหาร กฤตฏิกร กองทัพ ครอบครัวนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ณ วัดหนองตะคลอง ตำบลหนอหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ตลอด 2 เส้นทาง ที่ขบวนผ่าน มีพี่น้องประชาชนชาวสุพรรณ ต่างมายืนรอรับ โบกธงชาติไทย แสดงความอาลัย และสดุดี เป็นจำนวนมาก
นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธาน รดน้ำศพพระราชทาน วางพวงมาลาพระราชทาน และมอบกระเช้าพระราชทาน ให้กำลังใจแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต สร้างความปลื้มปิติให้แก่ครอบครัวทหารกล้า วันพุธที่ 17 ธันวาคม จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ส่วนร่างของ พลทหาร มุสตากีม ถูกส่งให้กับครอบครัว นำไปประกอบฝัง ที่กุโบร์สะบือรัง ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส มี นายแวดือราแม มะมิงจิ เป็นประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี เป็นประธาน
พ่อของพลทหาร มุสตากีม เล่าว่าลูกชายจะโทร.มาขอพรจากพ่อตลอดก่อนเข้าสมรภูมิรบ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ช่วงเย็น ลูกชายยัง โทร.มาหา บอกข่าวดีว่ายึดเนิน 677 ได้สำเร็จ พ่อก็ดีใจกับลูกชาย พร้อมเตือนไม่ให้ลูกประมาท เพราะจุดนั้นกัมพูชา ยึดครองพื้นที่มาก่อน รู้พิกัดเป็นอย่างดีอาจจะย้อนมาตลบหลังได้ทุกเมื่อ เมื่อสัญญาณไม่ค่อยดี จึงวางสาย และวันรุ่งขึ้นก็ได้รับแจ้งข่าวร้าย จึงอยากให้เหตุครั้งนี้เป็นบทเรียนสำหรับกองทัพ เมื่อเรายึดพื้นที่มาได้ ก็ควรหามาตรการป้องกัน
