สนามข่าว 7 สี - ข้อเสนอขอให้รัฐฯ ทบทวน "ฟรีวีซ่า" สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกกล่าวถึงอีกครั้ง หลังมีเบาะแสกลุ่ม "นักรบต่างชาติ" เข้ามาเป็นทางผ่าน และตั้งฐานแฝงตัวตามแหล่งท่องเที่ยว ก่อนข้ามไปสนับสนุนกัมพูชา
มีข้อมูลจากเพจ "thaitribune" บอกว่า นโยบาย "ฟรีวีซ่า" ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้จริง แต่ในภาวะตึงเครียดด้านความมั่นคง กลับเป็นการเปิดช่องว่างให้ "นักรบรับจ้าง" ที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธสมัยใหม่ เข้ามาแฝงตัวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย อย่างพัทยา เกาะสมุย และเกาะพะงัน ก่อนข้ามพรมแดนไปยังฝั่งกัมพูชา และกลับเข้ามาในไทยภายหลังเสร็จภารกิจ เข้าข่ายเป็น "พื้นที่พัก-จุดนัดหมาย" บางครั้งก็มารักษาตัวในไทย
ข้อมูลนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตกลุ่ม "นักรบรับจ้าง"ที่ไปช่วยกัมพูชารบกับประเทศไทย เดินทางเข้าประเทศไทยก่อน แสดงให้เห็นว่าฝั่งไทยแอบเปิดด่านไปยังกัมพูชาโดยไม่มีการควบคุม
ทีมข่าวถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้จาก "ผู้บัญชาการ ตม." แม้ว่าข้อมูลนี้ ทาง ตม.จังหวัดที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงว่าเป็นข่าวปลอม บอกว่าไม่มีจริง "นักรบ หรือ สายลับต่างชาติ"
แต่จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยอมรับว่ามีข่าวกรองจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติสั่งเฝ้าระวังต่อเนื่อง
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงยกระดับเพิ่มความเข้มการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มาในคราบนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้าประเทศไทย รวมถึงชาติเฝ้าระวังอื่น ๆ ว่าเข้ามารูปแบบใด
จากคดีที่ผ่านมาไม่เคยเจอ นักรบ หรือ สายลับต่างชาติ และเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ แต่จากข้อมูลของตำรวจเชื่อว่าหลักฐานเหล่านั้นจะปรากฎในพาสสปอร์ต เนื่องจากมีประวัติการเดินทางไปในที่แปลก และไม่ควรไป แตกต่างกับนักท่องเที่ยวทั่วไป
ทั้งนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยอมรับว่าการยกเลิก "ฟรีวีซ่า" ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดี เพราะว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาแสดงตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
ตำรวจบอกว่า การเฝ้าระวังเห็นผล ยกตัวอย่างคดี "ลิม กิม ยา" นักการเมืองกัมพูชาที่ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงเทพฯ พบว่ามือปืนที่ก่อเหตุเป็นคนไทย หากตำรวจไม่เฝ้าระวัง สกัดกั้น คดีเหล่านี้อาจพบผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ
ขณะที่ "เบิร์ด" เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน มูลนิธิอิมมานูเอล (IMF) บอกว่าสถานการณ์ทางทหารตอนนี้รุนแรงขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการพาคนไทยกลับเข้ามา เนื่องจากยังช่วยเหลือได้ยากเช่นเดิม เพราะส่วนใหญ่คนไทยถูกขังอยู่ตามตึก และกัมพูชาไม่ยอมเปิดด่าน ทำให้มีคนไทยติดค้าง 7,000 คน ซึ่งยังมีประชาชนประสานขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เช้าวันที่ 14 ธันวาคม เพิ่งช่วยเหลือคนไทยกลับมาได้ 11 คน ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ก่อนส่งต่อให้ทหารไทย นำเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง แต่หากคนไทยที่ถูกจับได้จะต้องติดคุกอยู่ที่กัมพูชาถึง 8 เดือน