ห้องข่าวภาคเที่ยง - สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะต่อเนื่อง เมื่อวานมีบ้านชาวบ้าน โดนระเบิดพังเสียหาย และมีชาวบ้านรวมถึงทหารเสียชีวิต ทำให้ต้องสั่งอพยพเพิ่ม
นี่เป็นจังหวะที่ทหารไทยเข้าตรวจสอบ บ้านพักในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังเมื่อช่วง 11.50 น. วานนี้ (14 ธ.ค.) กัมพูชา ระดมยิงจรวด BM-21 ลงพื้นที่ชุมชน ทำให้บ้านเรือนประชาชน ถูกแรงระเบิด เสียหายหลายหลัง
บ้านหลังนี้เป็นของ นายดำ เพลิงที่ลุกไหม้ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่ดูแลความสงบอยู่ในพื้นที่ ต้องช่วยกันตักน้ำสาด จนเพลิงสงบ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปพื้นที่ได้เนื่องจากยังมีการยิงปะทะ อย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เล่านาทีจรวดของกัมพูชา ถล่มชุมชน และเป็นเรื่องน่าเศร้า เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ นายดร อายุ 63 ปี ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ กำลังจะวิ่งเข้าบังเกอร์ ถูกสะเก็ดระเบิด เสียชีวิต 1 รายและการปะทะเมื่อวานนี้ ทำให้ สิบเอก อภิสิทธิ์ บุนนาค หรือ จ่าตี๋ ตำแหน่งนายสิบพยาบาล สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 นายสิบประจำสนามรบ ถูกสะเก็ดจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชาโจมตีอย่างรุนแรง ภายในบังเกอร์ พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตเป็นนายที่ 16 ในการสู้รบครั้งที่ 2
ซึ่งร่างของ จ่าตี๋ จะมีการชันสูตรพลิกศพ ช่วงบ่ายนี้แล้วทางกองทัพจะดำเนินการระเบียบของกองทัพ ส่วนร่างของ นายดร ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องรอญาติมารับศพไปทำพิธีตามศาสนาต่อไป
ด้าน นายอำเภอกันทรลักษ์ ประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง อยู่ที่ศูนย์พักพิง สถานที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และให้ชาวบ้านในพื้นที่ 7 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลเสาธงชัย, ละลาย, รุง, ชำ, ภูผาหมอก, บึงมะลู และโนนสำราญ อพยพด่วน ห้ามเดินทางกลับภูมิลำเนา ยกเว้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง มีโทษตามกฎหมาย
ขณะที่ จังหวัดอุบลราชธานี การประทะตามแนวชายแดนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการประกาศอพยพประชาชน ใน 3 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลโดมประดิษฐ์ ตำบลศรีวิเชียร และตำบลโซง ในอำเภอน้ำยืน ซึ่งประชาชนหลายคนก็อพยพไปที่ศูนย์พักพิงต่าง ๆ แต่โดยดี แต่ก็มีประชาชนบางส่วน ไม่ยอมอพยพ ตามคำสั่งของจังหวัด โดยอ้างว่าเป็นห่วงทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามไปทำความเข้าใจว่า ในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง หลังประเมินสถานการณ์ว่ากัมพูชาจะยิง BM-21 เข้ามาถล่ม แต่พบว่าตลอดทั้งคืน ไม่มีการยิงเข้ามาของฝั่งกัมพูชาแต่อย่างใด
