สนามข่าว 7 สี - แม้จะไม่มีการยืนยันว่า มีทหารรับจ้างเข้ามาในไทย เพื่อเตรียมโจมตีพื้นที่ทางยุทธศาสตร์จริงหรือไม่ แต่เพื่อความไม่ประมาท เฝ้าระวังไว้ ย่อมดีกว่าเสียใจภายหลัง
ใช่หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ ชาวบ้านอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เห็นแล้วบันทึกไว้ได้ ตอนประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา เห็นโดรน 2-3 ลำ บินเหนือพื้นที่บ้านหนองม่วงใหญ่ ตำบลงิ้ว จึงส่งมาให้กับเพจฯ ห้วยแถลง ฝากแจ้งหน่วยงานในท้องที่
ซึ่งชาวโคราช ช่วงนี้ตื่นตัวกันเป็นพิเศษ ก็เพราะมีข่าวขอความร่วมมือจาก สภ.พลกรัง ให้ช่วยเฝ้าระวังชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ที่อาจนำโดรนมาบินโจมตีจุดที่เป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของไทย เลยทำให้ตำรวจต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจตรามากขึ้นกว่าปกติ แต่จากการตรวจสอบ ก็ยังไม่พบบุคคลน่าสงสัยที่ว่า
สอบถามเรื่องนี้กับ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ข้อมูลด้านการข่าว ยังต้องใช้คำว่า "อาจจะ" มีกลุ่มทหารรับจ้างเข้ามาในไทยจริง เพราะยังไม่สามารถยืนยันได้ จึงต้องการให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง เฝ้าระวัง
ขณะที่ โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อธิบายว่า เรื่องการเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยที่อาจเป็นทหารรับจ้าง ยังตั้งอยู่บนข้อสันนิษฐานที่อาจมีแนวโน้มว่าจะเข้ามาในไทย
และเมื่อเป็นข้อสันนิษฐาน ก็ต้องมาดูว่า นอกจากกัมพูชา ที่นาทีนี้มีสถานะเป็นคู่ขัดแย้งแล้ว ข้อมูลข่าวกรองต่าง ๆ ในวงการหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า กลุ่มบุคคลที่มีโอกาสเป็นทหารรับจ้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อยู่ในแถบเอเชียตอนบน และฝั่งยุโรปตะวันออก หรือก็คือโซนที่อยู่ใกล้รัสเซียและยูเครน
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทุกสนามบิน จะพิจารณาอนุญาตให้เข้าไทยหรือไม่ จะพิจารณาจากข้อมูลการเดินทางเข้าไทย หากคนที่เข้ามาไม่สามารถสำแดงแผนการเที่ยว ที่พัก หรือมีตั๋วเดินทางกลับชัดเจน ก็จะถูกพิจารณาอยู่แล้ว
ส่วนกรณีนี้ หากคนที่จะเข้ามา มีบุคลิกภาพของกลุ่มทหารรับจ้าง เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และจะปฏิเสธการเข้าประเทศเฉพาะกรณีที่มีข้อสงสัยเท่านั้น
สำหรับเรื่องการยกเลิกฟรีวีซา หรือยกเลิกสายการบินพาณิชย์ ระหว่างไทย และกัมพูชา ไม่ได้อยู่ในอำนาจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ทราบว่ากระทรวงมหาดไทย กำลังทบทวนเรื่องนี้อยู่ ส่วนเรื่องยกเลิกสายการบิน ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พอมีการพาดพิงถึงประเทศอื่น ก็จะมีการชี้แจงยืนยันออกมา อย่างกรณีที่มีชื่อ ประเทศรัสเซีย สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ก็โพสต์ชี้แจงทางเฟซบุ๊ก ตามที่ปรากฏในกระแสข่าวที่ว่าอาจเป็นคนรัสเซีย เข้าไปร่วมรบนั้น ไม่เป็นความจริง
และมีแนวโน้มว่าถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค มีเป้าหมายบั่นทอนสิทธิพลเมืองชาวรัสเซีย ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยว หรือประกอบธุรกิจ เป็นการสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนาน ระหว่างประเทศรัสเซียและไทย
