ห้องข่าวภาคเที่ยง - ถ้ายึดไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น เจออีกแล้ว อาวุธทันสมัยสัญชาติจีนของกัมพูชา พบบนเนิน 500 บริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี หลังทหารไทยบุกยึดพื้นที่คืนสำเร็จ แต่ละอย่างเรียกว่าอันตรายมาก
เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force โพสต์ภาพอาวุธทันสมัยหลากหลายชนิดของกัมพูชา ที่ถูกทหารยึดได้บนเนิน 500 หลังเพิ่งเข้าตีและปักธงชาติไทยได้สำเร็จ โดยระบุข้อความว่า เย็นวานนี้ (15 ธ.ค.) ทหารไทย ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนจากทหารกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก บนเนิน 500 ภายหลังปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่สำเร็จ อาทิเช่น กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นลูกระเบิดที่ใช้งานร่วมกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน และกระสุนชนิดต่าง ๆ
เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มิลลิเมตร ผลิตโดยบริษัทนอริงโก้ ประเทศจีน ซึ่งเป็นเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังและต่อต้านบังเกอร์ มีระยะยิงหวังผล 200 เมตร และระยะยิงสูงสุด 400 เมตร อาวุธชนิดนี้ เป็นอาวุธสำหรับทหารราบ สามารถพกพาไปได้ง่าย น้ำหนักเบา ประมาณ 3.7 กิโลกรัม ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง
นอกจากนี้ ยังพบหัวรบ สำหรับทำลายเป้าหมายในอาคารหรือกำลังพลในที่กำบัง คือรุ่น WPF-89-1 และ WPF-89-2 ที่ใช้หัวรบที่สร้างคลื่นระเบิดและแรงดันสูงในวงกว้าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการทำลายล้างในพื้นที่ปิด
อาวุธที่พบนี้ไม่รวม ขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีน ที่มีการพูดถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอาวุธทันสมัยที่สุดในโลก และเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถูกใช้ที่ไทยเป็นครั้งแรกเช่นกัน
มีการวิเคราะห์กันว่า ทำไมอาวุธนานาชนิดถึงถูกทิ้งไว้ในพื้นที่การรบ ไม่ได้นำติดตัวล่าถอยออกจากพื้นที่ ก่อนถูกไทยเข้าตีและยึดได้ ถือเป็นความสูญเสียอาวุธสำคัญจำนวนมาก ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า ทหารที่นำอาวุธไปใช้ไม่มีความชำนาญและขาดการสนับสนุนการถอยที่ดี หรือจะเรียกว่า "คนป่ามีปืน" หมายถึงมีอาวุธที่มีเทคโนโลยีสูงแต่ใช้ไม่เป็น เพราะตามปกติแล้วการถอนกำลังออกจากพื้นที่ หากนำอาวุธไปไม่ได้ก็จะมีการทำลายอาวุธทิ้ง อย่างที่เราเห็นในการรบหลายพื้นที่ คือไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามนำอาวุธไปใช้งานต่อ หรือนำไปศึกษาเทคโนโลยี