ข่าวทหารไทยยึดขีปนาวุธสัญชาติจีนจากทหารเขมร วันนี้ (16 ธ.ค.68) น.ท.อรรถยุทธ ขาวสะอาด อดีตนักบินเฮลิคอปเตอร์ กองทัพอากาศ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับข่าวการตรวจยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง โดยระบุว่า เรื่องอาวุธ อย่าดูแค่ป้ายประเทศผู้ผลิต ในฐานะอดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ที่เคยทำงานด้านความมั่นคงชายแดนโดยตรง ขอแลกเปลี่ยนมุมมองต่อข่าวการตรวจยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ซึ่งกำลังถูกเชื่อมโยงกันไปไกลเกินข้อเท็จจริงอยู่พอสมควร
ประเด็นแรกที่ควรทำความเข้าใจให้ตรงกันคือ ขีปนาวุธที่ตรวจยึดได้ อาจจะไม่ใช่รุ่นพิสัยไกล 10 กิโลเมตร (GAM-102LR) แต่เป็น GAM-102 รุ่นมาตรฐาน พิสัยประมาณ 4 กิโลเมตร (ดูภาพประกอบ) ความสับสน อาจเกิดจากรูปลักษณ์และแท่นยิงที่คล้ายกัน ทำให้หลายแหล่งข้อมูลตีความผิด และขยายระดับภัยเกินจริง
ข้อมูลทางเทคนิคที่ตรวจสอบได้ บ่งชี้ว่า อาวุธตระกูลนี้ถูกนำไปจัดแสดงในงานด้านการป้องกันประเทศมาตั้งแต่หลายปีก่อน ไม่ใช่อาวุธใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งอุปกรณ์ควบคุมการยิงที่ตรวจยึดได้ มีปีผลิตก่อนสถานการณ์ตึงเครียดในปัจจุบัน ประเด็นนี้สำคัญ เพราะ การระบุรุ่นผิด อาจเท่ากับประเมินภัยผิด ก็ได้
ในด้านความมั่นคง เราไม่ถามว่า “ใครผลิต” ก่อน แต่ควรถามว่า อาวุธเหล่านั้น ถูกนำเข้ามาได้อย่างไร ใครเป็นผู้จัดหา ถูกนำมาใช้ในภารกิจใดและมีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน
อาวุธที่ผลิตจากจีน สหรัฐฯ รัสเซีย หรือยุโรป ต่างปรากฏอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งทั่วโลก เพราะอาวุธคือสินค้าเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่สัญลักษณ์ทางอุดมการณ์หรือการเมือง การที่บางคนไปเหมารวมว่า อาวุธผลิตจากประเทศใด = ประเทศนั้นอยู่เบื้องหลัง จึงเป็น ความคลาดเคลื่อนทางการวิเคราะห์ ไม่ใช่ข้อสรุปด้านความมั่นคง
สิ่งที่ควรมองคือ การที่อาวุธเหล่านี้ถูก “ตรวจพบและยึดได้” นั่นหมายความว่า ระบบความมั่นคงยังทำงานอยู่ และสามารถตัดวงจรภัยด้านความมั่นคงได้ก่อนการยกระดับสถานการณ์ให้มีอันตรายมากขึ้น
ขอทิ้งท้ายไว้เป็นข้อคิดสำหรับการติดตามข่าวด้านความมั่นคง “ความมั่นคงของชาติ” ไม่ได้ตัดสินจากป้ายชื่อบนอาวุธ แต่ตัดสินจากการควบคุมความเสี่ยงได้หรือไม่ และบางครั้ง สิ่งที่อันตรายกว่าอาวุธ คือ การเข้าใจผิด
หมายเหตุ
- GAM-102 ระยะยิงประมาณ 4 กม.
- GAM-102LR (Long Range) ระยะยิงประมาณ 10 กม.