เปิดประวัติ 3 แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย” ชู “ยศชนัน” เป็นลำดับที่ 1

เปิดประวัติ 3 แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย” ชู “ยศชนัน” เป็นลำดับที่ 1

View icon 203
วันที่ 16 ธ.ค. 2568 | 13.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ส่องประวัติ 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย “ยศชนัน-สุริยะ-จุลพันธ์”

วันนี้ (16 ธ.ค.68) พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย ลำดับที่ 1 ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์  ตามมาด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ตามลำดับ พร้อมเปิดประวัติโดยย่อของแต่ละคน ดังนี้
.
1. ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย

ประสบการณ์ทำงาน

● 2568-ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2568-ปัจจุบัน คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ AI แห่งชาติ
● 2568-ปัจจุบัน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2568 คณะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจ จัดทำร่างข้อเสนอแนะของยูเนสโก (UNESCO’s Recommendation) ว่าด้วยจริยธรรมของเทคโนโลยีประสาท (Neurotechnology) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
● 2568 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารจัดการและทรัพยากรบุคคล) ในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
● 2568 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านนวัตกรรมดิจิตอล) ในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
● 2568 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ในคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัย ไซเบอร์แห่งชาติ
● 2564-2567 ผู้อำนวยการ สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2564-2566 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการเครื่องมือแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
● 2563-2564 กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล จากคณาจารย์ประจำ
● 2562-2564 ประธานหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2561-2568 ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2560-2564 รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2558 ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์รับเชิญ ณ Graduate School of Systems Life Sciences มหาวิทยาลัยคิวชู ประเทศญี่ปุ่น
● 2555-2561ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2551-2555 ดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ประวัติการศึกษาระดับอุดมศึกษา และ มัธยมศึกษา

● 2547-2550 Ph.D. in Electrical Engineering, University of Texas at Arlington, USA
● 2545-2546  M.S. in Electrical Engineering, University of Texas at Arlington, USA
● 2541-2544 วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
● 2540 สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

รางวัลที่ได้รับ

● 2567 รางวัลผู้ชนะระดับชาติ James Dyson Award จาก James Dyson Foundation
● 2567 รางวัลชนะเลิศ Mahidol SDGs Impact Challenge 2024 มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2567 รางวัลชนะเลิศ Innovation for Campus Sustainability 2024 มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2565 รางวัลชนะเลิศสูงสุด the 8th Delta International Smart & Green Manufacturing Contest ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
● 2564 รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง the 7th Mission Idea Contest for Deep Space Science/Exploration ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
● 2564 รางวัลชนะเลิศสูงสุด the 7th Delta International Smart & Green Manufacturing Contest ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
● 2020 รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง Cybathlon 2020 Global Edition จากการแข่งขัน Brain-computer Interface Race
● 2016 รางวัล NRCT Inventor Award สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
● 2557 รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากการประกวด iCREATe 2014 ณ ประเทศสิงคโปร์ (Brain-controlled wheelchair)
● 2556 พนักงานมหาวิทยาลัยดีเด่นระดับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล
● 2556 รางวัลชนะเลิศ จากการประกวด iCREATe 2013 ณ สาธารณรัฐเกาหลี (Neurorehabilitation device using virtual reality)
● 2555 รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากการประกวด iCREATe 2012 ณ ประเทศสิงคโปร์ (Assistive Robot Arm)
● 2554 รางวัลเชิดชูเกียรติ จากการประกวด iCREATe 2011 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (Brain-Controlled Wheelchair)
● 2554 รางวัล Best Creativity Award จากการแข่งขัน Thailand Robot at Home สมาคมหุ่นยนต์ไทย
● 2554 รางวัล Terumo Award for Young Investigator จากงานประชุม the 7th Asian Conference on Computer Aided Surgery (ACCAS 2011) ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
● 2551 รางวัล Best Innovation Award จากโครงการ Electrical Equipments Control using Brain Waves จากงาน Street Technology จัดโดย MCOT

สิทธิบัตร

● 94318 : อุปกรณ์และกระบวนการวัดปริมาณความเค็มในอาหาร
● 88501 : อุปกรณ์ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยสัญญาณสมองเพื่อคนพิการทางการภาพ
● 87151 : วีลแชร์ควบคุมด้วยสัญญาณสมองพี 300 แบบกึ่งอัตโนมัติ
● 72346  : อุปกรณ์ตรวจระดับความง่วงด้วยคลื่นสัญญาณสมองแบบอัตโนมัติ

2.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย

ประวัติการศึกษา

● มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
● ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา
● ผ่านการอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น388

ประสบการณ์การทำงานและประสบการณ์ทำงานอื่น
● อดีตผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร)
● รองนายกรัฐมนตรี
● รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
● รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
● รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
● เลขาธิการพรรคไทยรักไทย
● กรรมการ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
● กรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
● ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทอิเล็คโทรนิค คอมโพเน้นท์ จำกัด
● ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิท แอดวานซ์ แมททีเรียล จำกัด
ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้ผลักดันการจัดตั้งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนารัฐวิสาหกิจให้เป็นองค์กรหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประเทศ รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย
ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร  การเร่งรัดการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , การสนับสนุนให้มีการก่อสร้างระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 , การเร่งรัดการเปิดดำเนินการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
รวมถึง นโยบาย Low Cost Airlines หรือสายการบินราคาประหยัด ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าของการเดินทางทางอากาศของประเทศ โดยเป็นการเพิ่มโอกาสการเดินทางของประชาชนมากขึ้น ทำให้วงจรเศรษฐกิจ การติดต่อธุรกิจหมุนเร็วขึ้น อันเป็นผลทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และเกิดการสร้างงานในธุรกิจการบิน เช่น โครงการนักบินเอื้ออาธร โครงการแอร์โฮสเตสเอื้ออาธร และยังผลักดันการสร้างโอกาสให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีการเข้าถึงสายงานอุตสาหกรรมนี้ โครงการนักบินเอื้ออาธรเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ทุนปีละ 115 ทุน เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2547-2549 การเปิดเสรีการบินของรัฐบาลมีผลทำให้ผู้โดยสาร Low Cost Airlines รวมเพิ่มจาก 79,879 คน ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 เป็น 471,455 คนในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 เที่ยวบิน Low Cost Airlines เพิ่มจาก 520 เที่ยวบิน เป็น 3,866 เที่ยวบิน
รวมถึงโครงการรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail link) และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง ตามแนวเส้นทางรถไฟสายตะวันออก (พญาไท-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ระยะทาง 28 กิโลเมตร ก็ได้รับการผลักดันและเริ่มในห้วงเวลาที่สุริยะ ดำรงตำแหน่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

และเมื่อสุริยะ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ในรัฐบาลเศรษฐา และ แพทองธาร สุริยะ ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ซึ่งกำลังจะดำเนินการแล้วในช่วงปลายปี 2568 และผ่านการแก้กฎหมายรองรับโครงการแล้ว แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้โครงการดังกล่าวหยุดชะงักไปอย่างไม่มีกำหนด

3.จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ประวัติการศึกษา
● มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● ปริญญาโท MBA, Boston College, USA

ประสบการณ์การทำงาน
● รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร
● อดีตประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)
● อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
● สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ปี 2548, 2550, 2554, 2562, 2566
● อดีตกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร
● อดีตกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร
● อดีตกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร
● อดีตกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
● อดีตกรรมาธิการพืชผลการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร
● อดีตคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล
● อดีตคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน
● อดีตคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย

ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณและขุนพลเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์โดดเด่นอย่างมากในการอภิปรายถล่ม "พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี" และ "พ.ร.ก. กู้เงินโควิด" ตลอด 4 ปี ของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ การตีแผ่ความล้มเหลวของการจัดสรรงบที่เขาเรียกว่า "รัฐราชการรวมศูนย์" โดยมักจะเจาะลึกไปที่ "งบกลาง" ซึ่งเป็นงบที่นายกฯ ถือไว้ในมือว่ามีการตรวจสอบยาก
รวมถึงการอภิปรายโจมตีการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ 5 แสนล้านบาท ว่าเป็นการ "เซ็นเช็คเปล่า" ที่ไร้ประสิทธิภาพ ก่อหนี้สาธารณะพุ่งสูงทะลุเพดานแต่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว และได้อ้างอิงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามซ่อนไว้ เช่น หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงสวนทางกับ GDP ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาชัดเจนในฐานะฝ่ายค้านที่แม่นยำข้อมูลเศรษฐกิจ

จุลพันธ์ยังทำหน้าที่เป็น "วิปฝ่ายค้าน" ตัวหลักที่คอยคุมเกมในสภา เขาใช้ความเชี่ยวชาญในข้อบังคับการประชุมสภามางัดข้อกับประธานสภาและฝ่ายรัฐบาลอยู่เสมอ แต่ผลงานการอภิปรายที่ดุเดือดที่สุดในช่วงท้ายสมัยก่อนการเลือกตั้ง 2566 คือการถล่มนโยบาย "กัญชาเสรี" ของพรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 โดยชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดทางกฎหมายที่ทำให้เกิด "สุญญากาศ" ที่ไร้การควบคุม จนกัญชาแพร่ระบาดไปสู่เยาวชน โดยอภิปรายกดดันให้ถอนร่าง พ.ร.บ. กัญชาฯ ออกจากวาระ ในช่วงเวลาดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง