วิสัยทัศน์ 3 แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย”

วิสัยทัศน์ 3 แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย”

View icon 164
วันที่ 16 ธ.ค. 2568 | 14.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เปิดวิสัยทัศน์ 3 แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย” เมินคำดูถูก ลูกหลานตระกูลชินยังขึ้นแท่น

วันนี้ (16 ธ.ค.68) พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกพรรค ดังนี้

เริ่มที่ นายจุลพันธุ์ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน นโยบายเร่งด่วนนโยบายแรก คือ “หวยเกษียณ” ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สานต่อ แต่เราจะทำให้ได้ใน 3 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล และ อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วนจะสานต่อนโยบายล้างหนี้ ดังนี้
.
1. แก้หนี้นอกระบบ
.
ด้วยการให้สินเชื่อรายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่ต้องมีหลักประกันไปปิดหนี้นอกระบบ เพราะหนี้นอกระบบไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่คือความรุนแรง การข่มขู่ การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นี่คือการคืนอิสรภาพจากความหวาดกลัว
.
2. หนี้ NPL ทำให้รายได้กลายเป็นดอกเบี้ย
.
เพราะประชาชนขาดโอกาส ประเทศติดหล่ม จะดีหรือไม่ หากคนที่เป็นหนี้เสียไม่เกิน 200,000 บาท
จ่ายเพียง 10% หรือ 20,000 บาท ปิดหนี้ได้ทันที
.
นี่ไม่ใช่แค่การปลดหนี้ประชาชน แต่เป็นการปลดล็อกประเทศในทางเศรษฐกิจ
.
3. หนี้เกษตรกร
.
พี่น้องเกษตรกร ที่เผชิญกับภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจและภัยธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย จะพักเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อต่ออายุ ต่อลมหายใจให้พี่น้องเกษตรกร
.
4. ล้างหนี้วัยเกษียณ
.
เราอยากให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดการพึ่งพาลูกหลานด้านการเงิน เราจะปลดหนี้เสียของผู้สูงวัย ไม่เกิน 100,000 บาท ภายใน 3 เดือน
.
5. ลูกหนี้ชั้นดี ผ่อนดี 1 ปีฟรี 1 งวด
.
สำหรับกลุ่มลูกหนี้ชั้นดีที่จ่ายตรง จ่ายครบทุกงวด พวกเขาควรได้รางวัล โดยถ้าผ่อนดี 1 ปี ฟรี 1 งวด สำหรับยอดหนี้ 100,000 บาท
.
การแก้หนี้ประชาชน ไม่ใช่การแจกเงิน ไม่ใช่ประชานิยม แต่คือการซ่อมฐานรากของระบบเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
.
ขณะที่ นายสุริยะ ยืนยันว่า ภายใน 3 เดือน หากพรรคได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทต่อสายทันที และ ยังเสนอนโยบายรถเมล์แอร์ 10 บาท  ให้คนรายได้น้อยสามารถใช้รถเมล์แอร์ ได้ในราคาเดียวกับรถร้อน และจะสานต่อนโยบาย “บ้านเพื่อคนไทย” 

นายสุริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า คนข้างนอกบอกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถกลับไปอยู่จุดเดิมได้อีก แต่ตนเชื่อว่า ทุกคนในที่นี้ ไม่ได้คิดแบบนั้น เรายังมีไฟ มีฝัน มีอุดมการณ์เดียวกัน ที่อยากไปทำงาน ทำนโยบายดี ๆ ให้กับประชาชน และยังเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทย ยังเต็มเปี่ยม เพราะเป็นพรรคที่มีคนมีประสบการณ์จริง และมีคนรุ่นใหม่ที่มีพลังสร้างสรรค์ทำงานเป็นทีมเดียวกัน มีวิสัยทัศน์ชัดเจน ในการพัฒนาประเทศไทย ให้เดินหน้า และด้วยความเชื่อมั่นนั้น วันนี้จึงขออาสาเข้ามารับผิดชอบงานที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเพื่อรวมทุกคนไปทุ่มเททำงานให้กับคนไทยทุกคน
.
ด้านนายยศชนัน กล่าวว่า ในปี 2568 ปัญหาเดิม ๆ กลับเข้ามาอีกครั้ง ที่ผ่านมาเป็นแค่เศรษฐกิจไทยตกต่ำ แต่ทั่วโลกไม่มีปัญหา ครั้งนี้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ รวมถึงมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเรา พยายามต่อสู้เรื่องนี้มาตลอด ทั้งนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร,นายสมัคร สุนทรเวช, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่พยายามแก้ไขปัญหา แต่ปัญหานั้นไม่ได้แก้ไขได้โดยง่าย ต้องใช้พื้นฐานในการแก้ไขปัญหา

"แต่การที่เราเปลี่ยนนายกฯ ปีละครั้ง และทำได้ขนาดนี้ต้องขอชื่นชม (น.ส.แพทองธาร ได้ยกมือขอบคุณ ) ปัจจุบันประเทศไทยยังโชคดี แม้ทุกคนอาจจะนึกว่า ไม่มีทางที่ประเทศไทยจะกลับมาได้ แต่ผมจะใช้ชื่อว่า แยกแห่งความหวัง วันนี้ถ้าเรายังทําการเมืองแบบเดิม เราจะเลี้ยวไปด้านซ้ายเจอกับความมืดมิด ถ้าวันนี้เราเริ่มใหม่ปรับโครง ปรับโครงสร้างใหม่ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เทคโนโลยี บวกกับความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ และผมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมจะอาสานําประเทศไทยหลุดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้" นายยศชนัน กล่าว

นายยศชนัน ยังได้เสนอนโยบายในการวางรากฐานประเทศให้มีรายได้สูง ซึ่งจะต้องตั้งต้นจาก GDP ซึ่งการจะทําให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้จะต้องเทียบกับประเทศทั่วโลก โดยมีการอัปเกรดเครื่องยนต์ที่มีอยู่ใน 3 ส่วน คือ ภาคการเกษตร, ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคการบริการ เป็น 3 เสาหลักของ GDP โดยจะต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีในทุกๆ ด้าน ซึ่งสามารถเริ่มได้ทันทีเมื่อพรรคเพื่อไทยเข้าเป็นรัฐบาล

รวมถึงต้องเตรียมคนเพื่อรองรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และที่สําคัญรัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่น สร้างความปลอดภัย ความมั่นคงทางการเมือง สิ่งแวดล้อม และทําสงครามป้องกันการคอร์รัปชันทุกรูปแบบให้เป็นวัฒนธรรมของประเทศไทย เพื่อสุดท้ายเราจะเห็นภาพ GDP ไปข้างหน้า ทำให้คนไทยทุกคนได้รับโอกาสการเติบโตที่เท่ากันไม่ว่า จะเกิดที่ไหนในผืนแผ่นดินไทย

นายยศชนัน ยังได้ยกคำพูดของ นายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นแรงบันดาลใจเสมอมา ว่า "อีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและ ปฏิรูปทุกรูปแบบ เพื่อนำประเทศไทยให้หลุดพ้นจากวิกฤต และวางรากฐานสําหรับอนาคตของลูกหลานของเรา ซึ่งผมจะไม่ยอมทําหน้าที่เป็นเพียงผู้นําทางกฎหมายเท่านั้น แต่ผมจะขอเป็นผู้นําที่นํามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงสู่ประเทศไทยที่ดีขึ้น พร้อมย้ำว่าสิ่งที่นายทักษิณพูดสามารถทําได้ในอีก 4 ปีต่อมา ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงและเป็นประเทศที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ยืนอยู่บนเวทีโลก

นายยศชนัน กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราทํา ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ทําเพื่อเปลี่ยนแปลงหัวใจของประชาชน ซึ่งการเดินทางครั้ง นี้ไม่ใช่การเดินทางของพรรคเพื่อไทย แต่เพื่อให้พวกเราได้กลับมาช่วยกันสร้างประเทศไทยของเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง วันนี้พวกเราทุกคนจากพรรคไทยรักไทย พรรคที่อาจไม่ได้รับความยุติธรรม ทุกคนกลับมาที่บ้านของเรา บวกกับคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย เรากลับมารวมกัน มั่นใจว่า เราทําได้ เริ่มจากวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ยกเครื่องประเทศไทยเพื่อไทยทําได้ ถ้าเพื่อไทยทําได้ ประเทศไทยทําได้แน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง