เช้านี้ที่หมอชิต - ชายแดนด้านจังหวัดตราด มีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว 5 อำเภอ ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ทหารนาวิกโยธินได้ทำลายกระสุนปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ที่เข้ามาตกยังฝั่งไทย
เป็นภาพขณะชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ใช้ระเบิดทำลายกระสุนปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ที่ข้ามมาตกยังฝั่งไทย แต่ไม่เกิดการระเบิด ที่บริเวณกลางถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งกระสุนปืนใหญ่ลูกดังกล่าวเข้ามาตกตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่พบหลุมจุดตกของกระสุน ก่อนที่จะทำการขุดลงไป จนพบกระสุนปืนใหญ่ลูกนี้อยู่ลึกลงไปในดินกว่า 3 เมตร จึงใช้วัตถุระเบิดขนาด 2 ปอนด์ ทำลายกระสุนปืนใหญ่ลูกดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ยืนยันว่า วัตถุระเบิดถูกทำลายจนหมดสิ้นสมบูรณ์ และปลอดภัยแล้ว
โดยแขวงทางหลวงตราด ได้เข้าซ่อมแซมถนนแล้วเป็นการเบื้องต้นไปก่อน เพื่อให้รถสัญจรผ่านได้ และจะซ่อมแซมต่อไปในอนาคต
และเมื่อวานนี้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด, อำเภอบ่อไร่, อำเภอคลองใหญ่, อำเภอแหลมงอบ และอำเภอเขาสมิง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบภายในพื้นที่ตัวเมืองได้แล้ว หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิด M-79 ใส่ฐานปฏิบัติการเมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ภายหลังประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวได้เพียงไม่ถึง 30 นาที สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนกลับตึงเครียดขึ้นทันที โดยมีรายงานว่า เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ได้ปฏิบัติภารกิจทางอากาศเร่งด่วน ทำการทิ้งระเบิดใส่พิกัดเป้าหมายซึ่งเป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณพื้นที่ตรงข้ามชายแดน เพื่อสกัดกั้นภัยคุกคาม หลังจากตรวจพบการเคลื่อนย้ายกำลังพลและอาวุธหนักของทหารกัมพูชา เข้ามาประชิดพื้นที่บ้านทมอดา อีกครั้ง
โดยคาดว่า ฝ่ายกัมพูชามีเป้าหมายเพื่อทำลายฐานที่มั่นและเตรียมเปิดฉากโจมตีทหารนาวิกโยธิน หวังยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์บ้านสามหลัง ที่ทหารนาวิกโยธินยึดคืนมาได้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่บรรยากาศหลังยกเลิกเคอร์ฟิว ตลาดสดไร่รั้ง เขตเทศบาลเมืองตราด พบว่าบรรยากาศการค้าขายกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ยังไม่ปกติเหมือนเดิม เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้า มีทั้งเห็นด้วยกับการยกเลิกเคอร์ฟิว และที่ไม่เห็นด้วย แต่ทั้งหมดยังมีความกังวลเรื่องโดรนติดอาวุธ หรือโดนพลีชีพจะเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน
ขณะที่ถามถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้ชายแดน พบว่าชาวบ้านต่างปิดบ้านเงียบตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ และมีการใช้ไฟฟ้าส่องสว่างน้อยมาก
