รพ. นพรัตน์ฯ โชว์ศักยภาพผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาขั้นสูง

รพ. นพรัตน์ฯ โชว์ศักยภาพผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาขั้นสูง

View icon 79
วันที่ 17 ธ.ค. 2568 | 11.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รพ. นพรัตน์ฯ โชว์ศักยภาพผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ รายแรกของโรงพยาบาล ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาขั้นสูง แม่นยำ-ได้ประสิทธิภาพกว่าการผ่าตัดรูปแบบเดิม แผลเล็ก เสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็ว

นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็นหนึ่งในแนวทางการดูแลผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาขั้นสูง ที่มีความแม่นยำและได้ประสิทธิภาพในการรักษาที่มากกว่าการผ่าตัดรูปแบบเดิม และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาประชาชน โดยได้มอบหมายให้โรงพยาบาลในกรมการแพทย์ 5 แห่ง (โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสงฆ์ และสถาบันโรคทรวงอก) พัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ซึ่งจะทำให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนหรืออยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก สามารถทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีของการผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery) ที่ผู้ป่วยจะได้ประโยชน์จากการที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก เสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย

นพ.ปิยวัฒน์ เลาวหุตานนท์ ผอ. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์เฉพาะทางที่สำคัญ โดยการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่ง รพ.นพรัตน์ ถือเป็นโรงพยาบาลที่ 2 ของกรมการแพทย์ ที่สามารถทำการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสำเร็จ

โดยมี นพ.นันทวัฒน์ ศิริธานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ทำการผ่าตัดผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด สำเร็จเป็นรายแรกของ รพ.นพรัตนราชธานี พร้อมด้วยทีมบุคลากรทางการแพทย์ แผนกผ่าตัดผ่านกล้องของ รพ.นพรัตนราชธานี ประกอบด้วยแพทย์สหสาขาวิชาชีพ จากแผนกที่เกี่ยวข้องได้แก่ ศัลยกรรม และสูตินรีแพทย์ ได้มีการวางแผนเพื่อพัฒนาการดูแลผู้ป่วยในโรคอื่นๆ เช่น มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งตับอ่อนและท่อน้ำดี และมะเร็งนรีเวช ให้ได้รับการรักษาด้วยโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง