หนุ่มขับรถปาดหน้าหวาดเสียว ดริฟต์เก๋งกลางเมืองเชียงใหม่ อ้างโมโห หลังทะเลาะกับคู่กรณี อยากระบายอารมณ์ ตำรวจแจ้งข้อหา-ยึดรถ เผยเคยทำลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เสนอศาลถอนใบอนุญาตขับขี่
วันนี้ (17 ธ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องหน้ารถพลเมืองดีบันทึกภาพวินาทีที่ชายขับเก๋งสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาบริเวณเชิงสะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยรถคันดังกล่าวขับมาในลักษณะปาดหน้ารถคันอื่นไปมาตลอดเส้นทาง และมีการดริฟต์รถโชว์บริเวณคูเมืองด้วยสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณถนนคูเมืองเชียงใหม่ได้บันทึกภาพชายคนดังกล่าวได้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำวานนี้ หลังเกิดเหตุได้มีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้สกัดรถคันดังกล่าวไว้เพราะเกรงว่าจะขับรถไปก่อเหตุ ทำให้ผู้อื่นเกิดอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ จึงไล่ติดตามรถไปจนพบรถยนต์สีขาวคันดังกล่าว บริเวณถนนบุญเรืองฤทธิ์ ต.หายยา อ.เมือง จึงได้เข้าสกัด และควบคุมตัวชายคนขับรถทราบชื่อคือ นายชุติพนธ์ อายุ 42 ปี จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่
จากการสอบสวนนายชุติพนธ์ ให้การว่า ตนดื่มเบียร์ริมน้ำแม่ปิงคนเดียว เมื่อดื่มจนหมดได้ขับรถกลับบ้าน ก่อนถึงบ้านมีเรื่องทะเลาะกับชายคนหนึ่งบริเวณริมถนนบุญเรืองฤทธิ์ หน้าบ้านของตน ทำให้ตนเกิดอารมณ์โมโห ประกอบกับดื่มเบียร์มา จึงได้ขับรถออกไปต่อและได้ขับรถในลักษณะดริฟต์รถบนถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการระบายอารมณ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ผลการตรวจมีปริมาณแอลกอฮอล์ 23 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พร้อมกันนี้ได้ทำการตรวจค้นตัวและรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ทำการควบคุมตัวนายชุติพนธ์ไปแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, นำรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายเครื่องหมายเลขทะเบียน หรือป้ายประจำรถตามกฎหมายใช้ในทางเดินรถ และ ขับรถเมื่อใบอนุญาตสิ้นอายุ หรือระหว่างถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือถูกยึดใบอนุญาต พร้อมยึดรถยนต์สีขาวไว้เป็นของกลาง
ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือมีการเฉี่ยวชนกับรถพี่น้องประชาชนจนได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยก่อเหตุและถูกจับกุมในลักษณะนี้แบบนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก เมื่อวันที่ 10 ก.ค.68 แต่ยังไม่เข็ดหลาบมาก่อเหตุซ้ำอีก ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จากนี้ จะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกข้อหาความผิด และส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงได้ทำเรื่องเสนอพิจารณาริบรถยนต์ของกลางเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำอีก และเสนอเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ไปด้วยในสำนวนแล้วต่อไป