นย.ยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง เชิญธงราชวีขึ้นสู่ยอดเสา

View icon 16
วันที่ 17 ธ.ค. 2568 | 20.01 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - วันที่ 10 ของการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเกิดการปะทะต่อเนื่อง ทำให้มีทหารกล้าพลีชีพเพิ่มอีก 2 นาย ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ส่วนชายแดนจังหวัดตราด ทหารเรือ ยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง บ้านหนองรี จังหวัดตราด ได้สำเร็จ

นี่เป็นภาพที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เชิญธงราชนาวีขึ้นสู่ยอดเสาในพื้นที่บ้านสามหลัง บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังสามารถเข้ายึดพื้นที่ได้สำเร็จเรียบร้อย 100% แล้ว

ขณะที่ พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ กัมพูชาได้โจมตีพื้นที่บ้านสามหลัง ทำให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้ตอบโต้ จนกระทั่งสามารถป้องกัน และยึดพื้นที่ได้สำเร็จ 100%

นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังโจมตีมายังบริเวณประสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่อื่นตลอดแนว หวังเข้ามายึดครองพื้นที่ แต่ถูกฝ่ายไทยสกัดกั้นป้องกันแนวรบอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ พันตรี หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก สรุปความเสียหาย ฝ่ายไทยถูกอาวุธหนัก BM-21 โจมตีบ้านเรือนประชาชน ประชาชนได้รับบาดเจ็บและมีทหารเสียชีวิต

ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 1 อำเภอตาพระยา และอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พบกระสุนตก 13 จุด

ขณะที่ กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มีกระสุนตก 92 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 105 จุด มี บ้านเรือนเสียหาย 27 หลังคาเรือน ประชาชนเสียชีวิต 1 คน กระทบอาคารสถานพยาบาล 1 แห่ง ศาสนสถาน 4 แห่ง สถานศึกษา 1 แห่ง

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่จังหวัดสระแก้ว การปะทะวันที่ 10 ยังมีการรบปะทะอย่างหนัก เพื่อยึดครองพื้นที่

พื้นที่บ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา, พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง, พื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้ง 3 พื้นที่ ฝ่ายไทยดำเนินกลยุทธ์ และใช้การยิงจากอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อยึด และควบคุมพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาตั้งรับในที่มั่น และใช้การยิง BM-21 ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง

โดยวันนี้ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีรายงานผู้บาดเจ็บ เพิ่มเติม 8 นาย และเสียชีวิต 1 นาย คือ จ่าสิบเอก พรศักดิ์ เอี่ยมสอาด สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ในระหว่างเหตุการณ์ปะทะที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว

ส่วนในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ระหว่างปฏิบัติหน้าที่สู้รบในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ค. ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สรุปตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา มีกำลังพลเสียชีวิต ทั้งในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 รวมแล้ว 21 นาย

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเร่งทำงานอย่างเต็มที่สุดความสามารถในการนำร่างกำลังพล 2 นาย ที่เสียชีวิตออกมาจากพื้นที่ และหวังตลอดเวลาว่าอยากให้สถานการณ์จบลงโดยเร็ว และเกิดผลที่ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่า ไทยต้องได้เนิน 350

ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้ ถึงเวลาที่กัมพูชาจะต้องยอมเจรจาได้แล้วใช่หรือไม่ นายกฯ บอกว่า หากกัมพูชาใช้สติก็ควรจะเป็นแบบนั้น

ขณะที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หวังว่า เมื่อถึงจุดหนึ่ง กัมพูชาจะพร้อมคุยอย่างจริงจังในเรื่องของการหยุดยิง แต่กัมพูชาต้องเริ่มก่อน เพราะเหตุการณ์นี้ กัมพูชาก็เป็นคนเริ่มก่อน

ส่วนกรณีที่สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารไทยเสียชีวิตเกิน 5,000 คน แล้วนั้น นายสีหศักดิ์ บอกว่า อย่าลืมว่า ประเทศกัมพูชา เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่เหมือนประเทศไทย