องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดเชียงราย

View icon 43
วันที่ 17 ธ.ค. 2568 | 20.12 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เดินทางไปยังวัดขุนลาว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ (เวียงป่าเป้า) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวมอบให้แก่เด็ก 129 ตัว ถุงพระราชทานมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงาน 104 ถุง

จากนั้น องคมนตรีพบปะผู้นำหมู่บ้าน บ้านขุนลาว ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอินทรีย์รักษาป่าบ้านขุนลาว และเดินทางไปยังลานอาคารหลังเก่าโรงเรียนบ้านขุนลาว เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของราษฎรกลุ่มเป้าหมายโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ (เวียงป่าเป้า) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน

โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ (เวียงป่าเป้า) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยทรงรับโครงการดังกล่าวฯ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2554 โดยมีพระราชดำริความว่า "ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างผสมผสานกลมกลืนเป็นอย่างดี" เพื่อส่งเสริมศักยภาพกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ให้สามารถสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และขยายผลสู่กลุ่มเกษตรกรข้างเคียงได้ อีกทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ราษฎรส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีการทำอาชีพเก็บชา เมี่ยง ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิม และเริ่มปลูกกาแฟเป็นของตนเอง โดยรับการส่งเสริมจากโครงการฯ และหน่วยงานร่วม รวมถึงส่งเสริมการปลูกผลไม้ยืนต้น (ไม้เมืองหนาว) เช่น พลับ อะโวคาโด และโกโก้ ทำให้มีรายได้จากการถักไม้กวาดดอกหญ้า เก็บหาของป่าขาย และส่งเสริมอาชีพ โดยจัดโครงการฝึกอบรมให้ความรู้ ฝึกทักษะ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ภายในครัวเรือน เช่น อบรมการเพาะเลี้ยงกบ การแปรรูปใบชา ทั้งนี้ ราษฎรยังมีรายได้จากการทำไม้กวาดดอกหญ้า จักสาน และรับจ้างงานจากหน่วยงานในพื้นที่เป็นอาชีพเสริม ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยจากเดิม ปี 2555 จำนวน 18,028 บาท/ครัวเรือน/ปี เพิ่มเป็น 130,000 บาท/ครัวเรือน/ปี นอกจากนี้ ยังสามารถอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ป้องกันการบุกรุกทำลายป่าพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และการเผาป่า ได้อีกด้วย

ช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะ เดินทางไปยังบ้านป่าครั่ง ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ เชิญถุงพระราชทานมอบให้แก่ราษฎรในพื้นที่ สร้างความปลื้มปีติให้แก่ราษฎรในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยพสกนิกรเสมอมา จากนั้น พบปะและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของราษฎรบ้านป่าครั่ง

ข่าวอื่นในหมวด