“จตุพร” เชื่อ ไทย-กัมพูชา ยังรบกันอีกยาว ห่ากระสุน MB-21 ถล่มไร่นา-บ้านประชาชน สหรัฐฯ ไม่ได้บีบให้ยุติสงครามอย่างที่เคยแข็งกร้าวกับประเทศอื่น จี้ “อันวาร์” ตอบความจริงอาวุธที่จีนขายให้มาเลย์ ไปโผล่ในกัมพูชาหมายความว่าอย่างไร
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (18 ธ.ค.68) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ประเมิน สงครามระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า อาจใช้เวลาอีกยาวไกลจึงจะยุติลง ดังนั้น คงกระทบกับการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. 69 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้
อีกทั้งเชื่อว่า กองทัพไทยประกาศจะทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพทางทหาร จึงไม่ง่ายเลยที่การสู้รบให้เสร็จสิ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของไทย ถ้าสงครามเลยเถิดใช้เวลามากขึ้นและยังไม่ยุติแล้ว กกต.ควรคิดแล้วว่า ถ้าสงครามบานปลายยืดเยื้อจะจัดการเลือกตั้งภายใต้สงครามได้หรือไม่ เพราะการสร้างบรรยากาศเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่กับการรักษาประชาธิปไตยไว้ อีกอย่างหากกองทัพประกาศกฎอัยการศึก กกต. จะทำอย่างไร
ข้อความตอนหนึ่ง นายจตุพร ระบุด้วยว่า กรณีไทยกำหนด 3 เงื่อนไขให้กัมพูชายอมรับแล้วหยุดทำสงครามกันนั้น สิ่งสำคัญการยอมรับอยู่ที่กัมพูชาไม่มีสิทธิที่จะสู้รบแล้ว ถ้าตราบใดกัมพูชายังไม่สิ้นสภาพทางทหาร และยังสู้อยู่ จึงเป็นภาระที่กองทัพไทยต้องรุกรบต่อไป
วันนี้ทหารต้องเหนื่อยยากต่อไป เพราะนี่เป็นเรื่องของบูรณภาพดินแดน เป็นเรื่องการเสียสละ และทวงคืนแผ่นดินที่สูญเสียไปจากการปล่อยปละละเลยมากว่า 10 รัฐบาล ดังนั้นการสู้รบจึงเป็นการทำสงครามเอาแผ่นดินของไทยกลับคืนมา ไม่ได้สู้รุกรบเพื่อไปยึดครองดินแดนของกัมพูชา
นายจตุพร กล่าวถึงการยกเลิก MOU 43-44 ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาอ้างทำไม่ได้ ว่า รัฐบาลจะกอด MOU ที่ทำไม่ได้จริงไว้ตลอดไปทำไม และควรประกาศการยกเลิก เพราะถ้า MOU ดีจริงแล้วคงไม่เกิดการละเมิดกว่า 600 ครั้ง จนต้องทำสงครามกันในวันนี้ และเมื่อยกเลิกแล้วมาทำข้อตกลงกันใหม่ภายหลังสงครามยุติลง แม้รัฐบาลทำตามคณะกรรมการกฤษฎีกาว่ายกเลิก MOU ไม่ได้ แต่รัฐบาลต้องทำตามหัวใจของประชาชนด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
“สหรัฐฯ ไม่ได้บีบให้ยุติสงครามไทย-กัมพูชาอย่างที่เคยแข็งกร้าวกับประเทศอื่นมา รวมทั้งจีนก็วางตัวอย่างเหมาะสม อีกอย่างอาวุธสงครามจีนที่กัมพูชานำมาใช้สู้รบนั้น โดยจำนวนหนึ่งจีนขายให้มาเลเซียประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ดังนั้น มาเลเซียต้องชี้แจงว่า อาวุธไปปรากฎในกัมพูชาหมายความว่าอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ควรทำความจริงให้ปรากฎ”
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในพื้นที่ กทม.นั้น เชื่อว่า ยังเป็นพื้นที่เปิดให้ทุกพรรคแย่งชิง สส.กัน แม้เจ้าของพื้นที่เมื่อปี 2566 เป็นพรรคประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยจะรักษาหรือเพิ่ม สส.ให้มากกว่า 1 คนได้หรือไม่ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมี สส. ใน กทม.ก็พยายามเอาให้ได้เช่นกัน อีกทั้งพรรคประชาธิปัตยจะกลับมาช่วงชิงพื้นที่คืนได้หรือไม่ ถึงที่สุดแล้ว การประเมินการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.และพื้นที่อื่น ๆ ต้องอยู่ที่ปัจจัยการเมืองเป็นช่วง ๆ ไป ดังนั้น ขณะนี้คงประเมินอะไรไม่ได้มากนัก
