กระชากหน้ากากนักบุญกู้ภัย ทำอนาจารภายในกุฏิวัดดัง หลังหลบหนีคดีมานานกว่า 9 ปี

กระชากหน้ากากนักบุญกู้ภัย ทำอนาจารภายในกุฏิวัดดัง หลังหลบหนีคดีมานานกว่า 9 ปี

View icon 220
วันที่ 18 ธ.ค. 2568 | 09.54 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ธ.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้เข้าทำการจับกุม นายพิชิต อายุ 45 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”

โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร หลังจากหลบหนีคดีมานานกว่า 9 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2559 นายพิชิต ผู้ต้องหา ได้แฝงตัวเข้ามาทำหน้าที่เป็นจิตอาสาและช่วยเหลืองานต่าง ๆ ภายในวัดแห่งหนึ่งย่านพระโขนง จนได้รับความไว้วางใจจากพระภิกษุและชาวบ้านเป็นอย่างดี

ต่อมาในวันเกิดเหตุ พ่อของ ด.ญ. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ต้องหา ได้นำลูกสาววัย 5 ขวบ และลูกชาย มาฝากไว้กับหลวงพ่อที่วัดซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติ เพื่อให้ช่วยดูแลเนื่องจากตนต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด

โดยในช่วงเช้าวันดังกล่าวเวลาประมาณ 05.00 - 08.00 น. หลวงพ่อมีกิจต้องออกไปบิณฑบาต จึงได้ฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายพิชิต ช่วยดูแลภายในกุฏิ นายพิชิต ได้อาศัยช่วงเวลาที่ปลอดคนและอาศัยความไว้วางใจดังกล่าว สลัดคราบนักบุญก่อเหตุบังคับข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงวัย 5 ขวบภายในกุฏิของหลวงพ่ออย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปบุญคุณโทษ

หลังจากก่อเหตุแล้วยังได้ข่มขู่ห้ามไม่ให้เด็กหญิงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร มิฉะนั้นจะทำร้ายร่างกาย ด้วยความหวาดกลัว ด.ญ. จึงเก็บเรื่องราวอันเลวร้ายนี้ไว้เป็นความลับมาโดยตลอด และมีอาการตื่นผวา หวาดกลัว เก็บตัว ไม่ร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป เป็นเวลานานถึง 9 ปี

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2568 เมื่อ ด.ญ. อายุได้ 13 ปี ได้รวบรวมความกล้าและตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ญาติฟัง ทางครอบครัวจึงได้ร้องเรียนไปยังมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพจิตใจ ก่อนจะพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พระโขนง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในย่านชุมชนคลองเตย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง