ห้องข่าวภาคเที่ยง - สดุดีทหารกล้า พลีชีพในสมรภูมิเพิ่ม อีก 2 นาย รวมเป็น 21 นายแล้วที่สละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
อาลัยทหารกล้า สละชีพเพื่อชาติ อีก 2 นาย
กองทัพบกสูญเสียทหารกล้า ขณะปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยไทย ที่สมรภูมิบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว สูญเสีย จ่าสิบเอกพรศักดิ์ เอี่ยมสอาด หรือ จ่าใหญ่ สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
และในเวลาต่อมา 19.00 น.เมื่อคืน (17 ธ.ค.) ในสมรภูมิพลาญบั้งไฟ ทางทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สูญเสีย พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน หรือ เอสโซ่ สังกัดค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด และกระสุนปืน ค. ของกัมพูชา ถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ร่ำไห้อาลัย พลฯ เอสโซ่ พลีชีพในสนามรบ จ.อุดรธานี
แม่และยายของ พลทหาร เอสโซ่ ชาวจังหวัดอุดรธานี เมื่อได้รับข่าวร้าย จากกองทัพ ร้องไห้ด้วยความเสียใจ แม่เล่าว่า ลูกชายสมัครใจเป็นทหารเกณฑ์ หวังจะสอบนายสิบต่อได้ ได้ไปประจำการที่ชายแดน จุดปะทะดุเดือด เมื่อ 2 วัน ได้คุยโทรศัพท์ ลูกยังบอกว่า ไม่ต้องห่วง สบายดี จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ เมื่อได้ยินข่าวร้าย เข่าทรุด เสียใจและภูมิใจ ที่ลูกสละชีวิตเพื่อชาติ
เตรียมรับศพ จ่าใหญ่ กลับบ้าน จ.ปราจีนบุรี
สำหรับศพของจ่าสิบเอก พรศักดิ์ เอี่ยมสะอาด หรือ จ่าใหญ่ สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 ได้ถูกส่งมาจากสมรภูมิบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว รอผ่าชันสูตรอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี
และขณะนี้ พ่อและแม่ของจ่าใหญ่ กำลังเดินทางไปรับศพลูกชาย ก่อนที่จะได้มีการเคลื่อนย้ายศพของทหารกล้าไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในจังหวัดนครนายก ต่อไป
ครอบครัว อาลัยรักทหารกล้า จ.นครนายก
ส่วนที่บ้านเกิดของจ่าใหญ่ ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มีการจัดเตรียมสถานที่ รอรับศพ วีรบุรุษทหารกล้าของชาวจังหวัดนครนายก มีหน่วยงานจากราชการหลายหน่วยงานมาจากค่ายจักรพงศ์ จังหวัดปราจีนบุรี นำกำลังพล มาช่วยจัดเตรียมพื้นที่
แม่ยายของจ่าใหญ่ เล่าว่า จ่าใหญ่ เป็นเสาหลักของครอบครัว วันเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาหาในช่วงเช้า ที่สถานการณ์ปะทะหนักขึ้น ยืนยันต้องไปรบ เพราะเป็นหน้าที่ต้องรับใช้ชาติ ฝากดูแลลูกชายอายุ 6 ขวบ ที่รักเสมือนดวงใจของพ่อ
พิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้า พลีชีพเพื่อชาติ จ.ปทุมธานี
เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ที่วัดสว่างภพ จังหวัดปทุมธานี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ แก่ พลทหาร วายุ ขวัญเสือ อายุ 21 ปี สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ถูกสะเก็ดระเบิดอาวุธวิถีโค้ง สมรภูมิพื้นที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ และไปเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก พิธีศพจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ร่วมสดุดีวีรกรรมและไว้อาลัย อีกหนึ่งทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อรักษาไว้ ซึ่งอธิปไตยของชาติ
ญาติหลังพบร่าง พลฯ ภานุพัฒน์ จ.ศรีสะเกษ
ส่วน "พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา" ที่ยังหาศพไม่พบ ญาติออกมาตั้งความหวังว่าจะหาเจอ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ครอบครัวของพลทหารภานุพัฒน์ ที่พลีชีพพร้อมกับ "จ่าเริง" จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน บริเวณพื้นที่เนิน 350 และยังนำศพออกมาไม่ได้ ยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมารดาของพลทหารภานุพัฒน์ มีอาการซึมเศร้า ร้องไห้คิดถึงบุตรชายอยู่ตลอดเวลา
นางสาวสุชาวดี อินทะวงศ์ น้องสาวของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดเผยว่า ครั้งสุดท้ายที่ได้พบพี่ชายคือช่วงก่อนวันลอยกระทง ซึ่งเป็นช่วงที่พี่ชายลาพักกลับบ้าน ทุกครั้งที่กลับมามักซื้อสิ่งของมาฝากคนในครอบครัวเสมอ อีกทั้งพี่ชายเป็นคนมีเพื่อนฝูงมาก เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง และเคยวางแผนจะพาครอบครัวไปเที่ยวและไปทำบุญร่วมกัน พี่ชายไม่ได้มีความฝันหรือความต้องการอะไรมาก เพียงแค่ต้องการมีรายได้มาจุนเจือเลี้ยงดูพ่อแม่ และส่งตนเรียนให้จบตามที่ตั้งใจไว้
ขณะที่ นายสมนึก อินทะวงศ์ อายุ 59 ปี พ่อเลี้ยง เปิดเผยว่า ความฝันของลูกชายคือการไถ่ถอนที่ดินให้แม่ ซึ่งนำไปจำนองไว้เป็นเงินกว่า 530,000 บาท รวมถึงเงินอีกประมาณ 30,000-40,000 บาทที่เป็นชื่อของลูกชาย เพื่อนำกลับคืนมาให้ครอบครัว
นายสมนึก กล่าวด้วยว่า เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิต ตนแทบทรุดและทำอะไรไม่ถูก แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่ลูกชายยืนยันเสมอว่า จะไม่ทอดทิ้งครอบครัว ทั้งน้องสาวและน้องชาย ก่อนเสียชีวิตยังบอกว่าจะโอนเงินมาให้น้อง แต่สุดท้ายก็ไม่ทันได้ทำ ปัจจุบันครอบครัวต้องการได้รับร่างของลูกชายกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา หวังแต่ปาฏิหารย์จะช่วยได้ ส่วนอาการของแม่ยังคงอยู่ในภาวะโศกเศร้า และสุขภาพจิตยังไม่ดีนักและยังถามหาลูกชายอยู่เรื่อย ๆ