วันนี้ (18 ธ.ค. 68) พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส ตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ จ.น่าน หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้หวังดีว่ามีการลักลอบตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ขออนุญาตตามกฎหมาย
ต่อมาว่าที่พ.ต.ต.จิรายุ อิ่นแก้ว สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษสืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.325 เข้าตรวจค้นโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนบนที่ดินสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน พบว่ามีการติดป้ายประกาศรับซื้อไม้ติดตั้งอย่างเปิดเผยริมถนน
จากการการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบเพิงพักชั่วคราวดัดแปลงเป็นสถานที่แปรรูปไม้ ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบคนงาน 3 คนกำลังแปรรูปไม้อยู่ในโรงงาน ทราบชื่อนายสมบูรณ์ อายุ 64 ปี นายอำนวย อายุ 64 ปีและ นายคำ อายุ 64 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้าน ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จ.แพร่ จากการตรวจสอบโรงงานพบเครื่องจักรกลที่ใช้แปรรูปไม้ โต๊ะเลื่อย เครื่องยนต์ต้นกำลัง และเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมกองไม้ท่อน ไม้แปรรูป และเศษไม้จำนวนมากรวมของกลางทั้งหมด 14 รายการ
ซึ่งจากการสอบถาม คนงานให้การว่าเป็นลูกจ้าง ทำการแปรรูปไม้ตามคำสั่งของ นายเอส (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานและไม้ทั้งหมด โดยคนงานไม่ทราบว่ามีการขออนุญาตตั้งและประกอบกิจการโรงงานแปรรูปไม้ตามกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่าโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้หรือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมาย อีกทั้งยังตรวจพบเลื่อยโซ่ยนต์ไม่มีเครื่องหมายและไม่มีใบอนุญาต
ต่อมา นายเอส เจ้าของโรงงานได้เดินทางมาที่เกิดเหตุและรับว่าเป็นเจ้าของโรงงานแปรรูปไม้ดังกล่าวจริง และยอมรับว่า ไม่ได้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้และไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมาย แต่อ้างว่าการดำเนินการไม่เข้าข่ายเป็นความผิด พร้อมทั้งอ้างการติดต่อสอบถามหน่วยงานราชการบางแห่ง ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบว่า นายเอส มีพฤติการณ์ ใช้ถ้อยคำและการกระทำในลักษณะกดดัน ข่มขู่ และแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รวมทั้งมีการติดต่ออ้างบุคคลและหน่วยงานระดับสูงและจะดำเนินการฟ้องร้องกลับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในหลายช่องทาง จนส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่บางส่วนไม่สามารถร่วมปฏิบัติการได้
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายเอส และคนงาน ร่วมกัน ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,ทำการแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ร่วมกัน ตั้งและประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ฯ และ มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี นายเอส มีพฤติการณ์แสดงถึงการใช้อิทธิพลกดดันและแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ดำเนินคดีต่อไป