วันนี้ (18 ธ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนนี้เข้าสู่วันที่ 11 ของการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์ ชาวบ้านหลายคนก็เริ่มเป็นห่วงทรัพย์สิน มีบางครอบครัวขนข้าวของจากศูนย์อพยพ มาสังเกตการณ์ภายในบ้านแม้ว่าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
ด้วยความเป็นห่วงวัวควายและทรัพย์สิน อีกทั้งภาระค่าใช้จ่ายหลังอพยพไปนานหลายวัน ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลจุดปะทะจึงขออพยพกลับเข้ามาสังเกตการณ์ ในบ้านของตนเองก่อน
ส่วนเรื่องการเจรจาหยุดยิงชาวบ้านขอให้ทหารเป็นคนตัดสินใจ เพราะถ้าทหารยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ปัญหานี้ก็จะวนกลับมาอีก
โดยวันนี้ทีมข่าวได้สังเกตเห็นรถกระบะของผู้อพยพขนของและผู้คนจำนวนหนึ่ง ออกมาจากศูนย์อพยพ ซึ่งคาดว่าน่าจะกลับเข้าบ้าน
เช่นเดียวกับครอบครัวของนายประสพสุข ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.สุรินทร์ ที่ขนของออกมาจากบ้านเช่า กลับเข้ามาอยู่ภายในบ้าน หลังอพยพไปนานกว่า 11 วัน ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ยังคงมีความกังวลกับสถานการณ์อยู่ แต่เนื่องจากเป็นห่วงวัวควายและทรัพย์สินภายในบ้าน รวมถึงค่าเช่าที่ต้องแบกรับ จึงขออพยพกลับเข้ามาบ้านก่อน
อีกทั้งบ้านของตนอยู่ห่างไกลจุดปะทะพอสมควร จึงขอกลับเข้ามาดูแลบ้านก่อน หากมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นก็พร้อมที่จะอพยพออกไป
ส่วนเรื่องการเจรจาหยุดยิง ตนยังออกความเห็นไม่ได้ เพราะต้องรอฟังข่าวจากทางทหาร ว่าจัดการได้เบ็ดเสร็จหรือไม่ หากทหารยังจัดการไม่เรียบร้อยก็ขอ ให้เวลาทหารดำเนินการให้เสร็จก่อนเพราะไม่อยากจะต้องอพยพออกจากบ้านอีก