ทหารไทย ส่ง F-16 ถล่มกาสิโน รอบ 2 ของวัน

View icon 164
วันที่ 18 ธ.ค. 2568 | 16.02 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีรายงานว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) กองทัพไทย ยิงถล่มและทำลายตึกสแกมเมอร์กัมพูชา 2 จุด รวมแล้วกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยิงถล่มกาสิโนไปมากกว่า 6 แห่ง

เป็นภาพขณะชาวกัมพูชาไลฟ์สด แต่จู่ ๆ ก็ถูกเครื่องบิน F-16 กองทัพไทย ก็ยิงใส่อาคารกาสิโนในเมืองปอยเปตต่อหน้าต่อตา จึงรีบวิ่งขึ้นรถหลบหนี เหตุเกิดช่วงสายวันนี้ โดยเสียงระเบิดและกลุ่มควันจากซากอาคารมองเห็นชัดในระยะไกล ทำชาวเมืองปอยเปตแตกตื่นกันยกใหญ่

นักข่าวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ ระบุว่า จุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากเขตเมืองปอยเปต ใกล้อาคารและสิ่งปลูกสร้างหลายแห่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ เจ้าหน้าที่กัมพูชาเร่งเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและประเมินความเสียหาย

ล่าสุด เวลา 15.18 น.ที่ผ่านมา เครื่องบินรบ F-16 กองทัพอากาศ โจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการทางทหารและคลังอาวุธของกัมพูชา ใกล้กับภูเขาลึก อำเภอศรีโสภณ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวทางการทหาร ระบุว่า กัมพูชา ใกล้จะต้านไม่ไหวแล้ว ทั้งเนิน 350, พื้นที่ช่องกร่าง, ตาเมือน, ตาควาย หลังโดนไทยระดมยิงอย่างหนัก แม้ตอนนี้ในพื้นที่จะยังคงปะทะอยู่ต่อเนื่อง แต่ทหารไทยก็สามารถสกัดไม่ให้ทหารกัมพูชาเติมกำลังพลล็อตใหม่ 160 คน เข้าพื้นที่ อีกทั้งกำลังพลเดิมตอนนี้ก็อยู่ในสภาพอ่อนล้า ขาดน้ำ และเสบียง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ภาพกำลังทหารของกัมพูชาที่กระจายตัวอยู่ในเมืองปอยเปต ซึ่งภาพนี้ยืนยันได้ว่ามีการดักซุ่มของทหารกัมพูชา เห็นได้ชัดเจนว่าทหารกัมพูชากระจายตัวอยู่ในทุกพื้นที่

ด้าน นายภวัต ชูเอม แอดมินเพจฯ บอกว่า จากการประเมินการสู้รบ ไทย-กัมพูชา เห็นว่าเรายังห่างไกลกับคำว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่จะทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพการรบ เพราะจนถึง ณ ขณะนี้ เรายังไม่สามารถทำลายขีดความสามารถกัมพูชาได้มากขนาดนั้น

กรณีที่กัมพูชาส่งทหารเข้าแฝงตัวตามอาคารในเมืองปอยเปต เชื่อว่าเป็นการเตรียมความพร้อมหากมีการสู้รบในพื้นที่สำคัญ เพราะจีดีพีของประเทศกัมพูชากว่า 60% มาจากสแกมเมอร์ และทุนเทา ถ้าให้กัมพูชาหมดประสิทธิภาพทางการรบต้องฉีกกระเป๋าตังค์ โดยการทำลายฐานสแกมเมอร์

อย่างไรก็ตาม ทหารกองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.ศรีสะเกษ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบโกดัง เลขที่ 438 หมู่ที่ 8 บ้านแซร์ไปร์ แห่งหนึ่ง ภายในตลาดช่องสะงำ อำเภอภูสิงค์ พบหญิงชาวกัมพูชา และชายไทย เป็นสามี-ภรรยา แสดงตัวเป็นเจ้าของโกดัง จากการตรวจค้นพบเงินสดกว่า 11 ล้านบาท บรรจุอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า และทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 526 กิโลกรัม, โทรศัพท์มือถืออีก 7 เครื่อง จึงอายัดไว้ตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับทุนจีนเทาสนับสนุนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กัมพูชา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง