สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์การสู้รบไทย-กัมพูชา ยังไร้สัญญาณยุติ กัมพูชายังพยายามใช้กระสุนเงินเทา มุ่งร้ายโจมตี เข้ายึดคืนพื้นที่ แต่ก็อ่อนแรงเต็มที่ ขณะที่ไทยก็สู้ไม่ถอย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับ ว่าเที่ยวนี้กัมพูชาเตรียมตัวมาดีจริง
แนวปะทะบริเวณเนิน 350 ก่อนเกิดการสู้รบ กัมพูชาสร้างบังเกอร์คอนกรีตเสริมเหล็กบนเนินเขา ลักษณะเป็นอุโมงค์ เชื่อมต่อกับแนวคูเลต ด้านหน้ายังมีปูนปิดทับ เสริมกระสอบทรายอีกชั้น
ภาพนี้คือลักษณะการขุดอุโมงค์ของทหารกัมพูชา ที่ใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อตามแนวป่า โขดหิน ใช้ในการตั้งรับ ซุ่มโจมตี และหน่วงเวลาการรุกของทหารไทย
พลโท พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ วิเคราะห์สถานการณ์ว่า "เนิน 350" เป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ เป็นจุดสูงข่ม ใครยึดครอง ก็จะได้เปรียบทางยุทธวิธี สามารถบอกพิกัดเป้าหมายได้ชัดเจนกว่า กลยุทธ์ของกัมพูชา ตอนนี้คือการสะสมอาวุธ และยื้อเวลาให้นานาชาติเข้ามาแทรกแซง
พยายามทำให้ดูเหมือนว่าไทย ใช้กำลังเกินความจำเป็น ทั้งที่จริง ๆ แล้ว กัมพูชาต้องการให้การสู้รบยุติโดยเร็ว จนใจแทบขาด เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์เหลือไม่มาก การส่งกำลังบำรุงก็ทำได้ลำบาก และยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจอีก
ขณะที่ นายภวัต ชูเอม แอดมินเพจฯ Thaiarmedfplorce.com บอกว่า จากการประเมินการสู้รบ ไทย-กัมพูชา เห็นว่ายังห่างไกลกับคำว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยกตัวอย่างรถยิง BM-21 ที่ถูกทำลายได้หลักสิบคัน จากการประเมินเชื่อว่า "กัมพูชา" ยังยื้อการรบไว้ได้อีก 2-3 สัปดาห์
และต้องจับตามองท่าทีของทางการจีน ว่าจะกดดันให้ "กัมพูชา" ยอมวางมือ ประกาศยุติการสู้รบได้หรือไม่ และส่วนตัวก็เห็นว่า การจะทำให้ "กัมพูชา" หมดประสิทธิภาพทางการรบได้จริง ก็ต้องฉีกกระเป๋าเงิน ด้วยการทำลายฐานสแกมเมอร์
ทีมข่าวยังถามความเห็นเรื่องนี้กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต สส. และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้ความเห็นว่า "กองทัพอากาศไทย" มีข้อมูลในการโจมตี 5 พิกัด ที่ปอยเปต ชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายหลักคือ ฐานที่มั่นทางการทหาร คลังอาวุธ หรือที่ซ่องสุมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ของกัมพูชา ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของไทย และจุดที่โจมตีเหล่านั้น ก็ยังเป็นฐานปฏิบัติการสแกมเมอร์ด้วย นั่นจึงเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า กัมพูชา และสแกมเมอร์ เกี่ยวข้องกัน
ข้อมูลนี้ยังได้รับการบอกใบ้เป็นนัย ๆ จาก นายหลิว จง อี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของจีน ที่บอกว่า กัมพูชามีความเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่นานาชาติตระหนักถึงปัญหานี้ และหันมาให้ความสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมองว่าการสู้รบที่เกิดขึ้น เป็นการสู้รบแบบผสมผสาน บทบาทของกองทัพ คือ การทำลายแสนยานุภาพ เพื่อป้องกันภัยคุกคาม ส่วนรัฐบาลต้องตัดเส้นทางการเงินสกปรก ซึ่งเป็นยุทธปัจจัยที่กัมพูชานำไปใช้ซื้ออาวุธและน้ำมัน หากไม่ตัดเส้นเงินนี้ กัมพูชาก็ยังสามารถซื้ออาวุธมาต่อกรไทยได้อีกเรื่อย ๆ ทำให้การสู้รบ ไม่จบไม่สิ้น
