หนุ่มวัย 27 ปี อยู่บ้านเฝ้าทรัพย์สิน เพราะครอบครัวอพยพ เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังแม่กลับบ้านทำกับข้าวให้แม่ แต่แม่ไปกินข้าวบ้านญาติ น้อยใจเผาบ้าน ก่อนขับรถกระบะหนีชนจักรยานยนต์ 2 คัน เสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ เวลา 16.30 น. (18 ธ.ค.) ร.ต.ท.ภัทรภณ คำวิชา รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 น้ำยืน ว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านที่บ้านหนองทับ อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทั้งหลัง สอบถามจากชาวบ้านทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเอ อายุ 27 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะ หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุและไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 2 คัน กำแพงบ้าน 1 หลัง ก่อนจะเสียหลักพลิกคว่ำข้างทาง ส่วนตัว นายเอ ชาวบ้านได้ควบคุมตัวเอาไว้ได้
สอบถามนางบัว อายุ 66 ปี ทราบว่า นายเอ เป็นลูกชายเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งคนในครอบครัวได้อพยพไปยังศูนย์พักพิงมีเพียงนายเอ อยู่บ้านลำพัง ก่อนเกิดเหตุนางสาวบี นามสมมุติ มารดาของนายเอ ได้กลับมาจากศูนย์พักพิงนายเอ ได้ไปขอผักจากเพื่อนบ้านเพื่อมาทำกับข้าวให้แม่กิน แต่แม่กลับไปกินข้าวกับญาติ โดยไม่ทราบว่า นายเอ ทำกับข้าวรอจึงอาจจะเป็นสาเหตุทำให้นายเอ น้อยใจประกอบกับนายเอ เสพยาบ้าคลายเครียดระหว่างเฝ้าบ้านจึงทำให้ก่อเหตุเผาบ้านดังกล่าว
โดยเหตุการณดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัย และฝ่ายความมั่นคง จนถึงขั้น นายอาทิตย์ บุษบา นายอำเภอน้ำยืนต้องลงพื้นที่มาดูสถานการ์ด้วยตนเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ทำแจ้งข้อกล่าวหา วางเพลิงเผาทรัพย์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าโดยผิดกฎหมาย ส่วนเมื่อสอบสวนและพบความผิดอื่นจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
