ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไทยไม่เคยออกจากปฏิญญาสันติภาพ 4 ข้อ ที่ลงนามกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เหตุปะทะทั้งหมดเกิดจากกัมพูชาไม่ทำตามปฏิญญาก่อน
เข้าสู่การปะทะวันที่ 12 บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา บอกว่า วันนี้สถานการณ์เริ่มตั้งแต่ 05.00 น. ที่หนักคือบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย เนิน 350 ไทยพยายามผลักดัน ต้านทานอย่างหนัก ยังพบที่มั่นดัดแปลงให้แข็งแรง ที่เชื่อว่ามีตลอดแนว
ส่วนพื้นที่ที่ควบคุมได้เบ็ดเสร็จ คือ พื้นที่ซำแต จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพบทุ่นระเบิดดักรถถัง ดัดแปลงสังหารบุคคล ผิดต่ออนุสัญญาออตตาวา นอกจากนี้ยังพบเอกสารจดบันทึกพิกัดที่มีการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ ซึ่งได้เข้าไปพิสูจน์ทราบแล้ว
ขณะที่พื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว บริเวณปอยเปต ที่พบว่า "โดรนตรวจการณ์" หายไปในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการเปิดเผยจากกองทัพบก ว่า เป็นยูเอวี ที่ขาดการติดต่อเมื่อวานนี้เวลา 20.00 น. ขณะบินสังเกตการณ์ คาดว่าน่าจะเสียการควบคุม อาจจะตก ยูเอวีลำดังกล่าวอยู่ในขั้นการทดลองใช้ และนำมาปฏิบัติการ จุดที่สัญญาณขาดหาย คือ ทิศตะวันออกของปอยเปต ประมาณ 10 กิโลเมตร ส่วนรายละเอียดว่าถูกโจมตีหรือไม่ หรือมีเหตุขัดข้องใด ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ทราบ
ขณะที่ กองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา อยู่ในสถานการณ์การช่วงชิงพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามา คือ บ้านคลองแผง บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานว่ามีการพูดคุยกับ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของสหรัฐฯ และกำลังนัดพูดคุยกับทูตพิเศษจีน ที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี ไทยจะได้อธิบายถึงเหตุผลที่ไม่เคยเป็นฝ่ายรุกราน ยืนยันหากสหรัฐฯ และจีน กดดันให้ทำตามปฏิญญาสันติภาพ คงใช้กับไทยไม่ได้ เพราะเราทำตามปฏิญญาครบหมด
สำหรับการเรียกร้องให้มีการหยุดยิงระหว่าง 2 ประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน ไทยจะหยุดยิง เมื่อกัมพูชาสิ้นสุดความเป็นปฏิปักษ์ชัดเจน ต่อเนื่อง และเปิดเผย
นายสีหศักดิ์ เตรียม นำคณะผู้แทนไทยร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม ไม่ปิดกั้นการเจรจา แต่สันติภาพต้องมาพร้อมความปลอดภัยของประชาชน